(เพิ่มเติม) ครม.อนุมัติ 4 โครงการระยะปานกลาง-ระยะยาว เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ SMEs

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 9, 2014 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติชุดโครงการระยะปานกลาง-ยาวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) รวม 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการนาโนไฟแนนซ์, การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้เอสเอ็มอี, มาตรการปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรในสินค้าประเภทวัตถุดิบ สินค้ากึ่งสำเร็จรูป เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต และการออกพันธบัตรออมทรัพย์ วงเงิน 1 แสนล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.โครงการนาโนไฟแนนซ์ โดยจะให้บริษัทที่สนใจเข้ามาจะทะเบียนกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อเข้าร่วมปล่อยเงินกู้ให้แก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือพ่อค้าแม่ค้าสำหรับการประกอบอาชีพ มุ่งหวังเพื่อให้ลดการกู้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยที่สูง โดยจะปล่อยกู้ให้รายย่อยในวงเงินไม่เกินรายละ 1 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 36% ต่อปี หรือไม่เกิน 3% ต่อเดือน

ทั้งนี้นาโนไฟแนนซ์จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท.ตามกฎเกณฑ์ของ Non Bank ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.58 เป็นต้นไป และเชื่อว่าโครงการนี้จะได้ผลตอบรับที่ดีกว่าไมโครไฟแนนซ์ เพราะเป็นการให้สินเชื่อแบบที่มีความเข้มงวดน้อยกว่า

"บริษัทที่สนใจจะต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท มาจดทะเบียนไว้กับธนาคารแห่งประเทศไทย ตอนนี้มีผู้สนใจหลายราย ทั้งผู้ให้กู้เดิม และที่มาร่วมกับสถาบันการเงินบางแห่ง" รมว.คลัง กล่าว

2.การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ธุรกิจ SMEs ซึ่งมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นธุรกิจ SMEs ที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้ในการจำหน่ายสินค้าไม่เกิน 30 ล้านบาท/ปี โดยหากมีรายได้ตั้งแต่ 0-3 แสนบาท จะยกเว้นไม่เก็บภาษี และหากมีรายได้ตั้งแต่ 3 แสนบาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท จะเก็บภาษีในอัตรา 15% จากเดิมที่มีรายได้ตั้งแต่ 3 แสนบาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท เก็บภาษีในอัตรา 15%

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการ SMEs ได้รับประโยชน์ประมาณ 28,000 ราย และเชื่อว่าจะไม่ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐต้องลดลง เนื่องจากโครงการนี้จะทำให้มี SMEs เข้ามาอยู่ในระบบการเสียภาษีเพิ่มมากขึ้น

3.การปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรในสินค้าประเภทวัตถุดิบ, สินค้ากึ่งสำเร็จรูป, เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต โดยส่วนแรก จะยกเว้นอากรขาเข้าให้สินค้าประเภทดังกล่าวจากเดิมที่เก็บในอัตรา 1% 3% 5% และ 10% ให้เหลือ 0% ซึ่งจะมีสินค้าทั้งหมด 1,274 รายการได้รับการยกเว้นภาษีในส่วนนี้ และส่วนที่สอง จะยกเว้นอากรขาเข้าให้แก่สินค้าประเภทดังกล่าวจากเดิมที่เก็บ 20-30% ให้ลดมาเหลือ 10% โดยมีสินค้าที่ได้รับการยกเว้นในกลุ่มนี้ 258 รายการ

4.การออกพันธบัตรออมทรัพย์ วงเงิน 1 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณปี 58 วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท อายุ 10 ปี ส่วนที่สอง พันธบัตรที่ออกโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร( ธกส.) เพื่อชดเชยการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าว วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท โดยมีรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกัน ทั้งนี้จะเปิดจำหน่าย 2 ช่วง ช่วงแรกวันที่ 12-16 ม.ค.58 เปิดให้ซื้อได้ไม่เกินรายละ 2 ล้านบาท และช่วงที่สองวันที่ 19-20 ม.ค.58 ไม่จำกัดวงเงินซื้อ

รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ทั้งหมด 6 ชุดโครงการ แต่ที่ประชุมครม.อนุมัติเพียง 4 โครงการก่อน และคาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีการพิจารณาเพิ่มเติมอีก 2 โครงการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ