นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.86/88 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.91/92 บาท/ดอลลาร์
ทิศทางเงินบาทวันนี้แข็งค่าจากเมื่อวาน โดยล่าสุดแข็งค่าไปอยู่ที่ 32.83/84 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเงินบาทช่วง 1-2 วันนี้ค่อนข้างแข็งค่าสวนทางค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค และมี flow จากฝั่ง Exporter ที่ขายดอลลาร์ค่อนข้างมาก เลยทำให้เงินบาทแข็งค่า
"บาทแข็งค่ามาตั้งแต่เมื่อวาน เพราะถ้าดูสกุลอื่นก็ค่อนข้างอ่อนค่า ซึ่งจริงๆ แล้ว trend ดอลลาร์ก็ยังแข็งค่าอยู่ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ค่อนข้างจะออกมาดี รวมทั้ง statement ของทาง FED เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า และดูว่าจะมีความชัดเจนขึ้น" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.78-32.90 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.87 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 118.60 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2286 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2312 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.9310 บาท/ดอลลาร์
- นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม-ธันวาคม 2557) ต้องมีการเบิกจ่ายให้ได้ 32% ของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ 2.575 ล้านล้านบาท หรือต้องเบิกให้ได้ 7.5 แสนล้านบาท โดยเท่าที่ติดตามตัวเลขน่าจะเบิกจ่ายได้ประมาณ 30% หรือคิดเป็นวงเงิน 7.25 แสนล้านบาท ถือว่าใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ และหากรวมกับงบอื่นๆ ทั้งงบเหลื่อมปี เงินทุนหมุนเวียน งบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ รวมถึงการจ่ายเงินให้กับชาวนา และชาวสวนยาง พบว่ามีเม็ดเงินที่ลงสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกของปี 9 แสนล้านบาท
- นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 58 จะฟื้นตัวลักษณะตัวยู หรือแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่จะเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความผันผวนต่อตลาดเงิน ตลาดทุน และภาวะเศรษฐกิจ โดยปัจจัยหลักมาจากต่างประเทศ
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐส่วนใหญ่ปรับตัวแข็งแกร่ง ซึ่งหนุนมุมมองบวกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่ผลการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ครั้งล่าสุด ไม่ได้ให้คำมั่นเกี่ยวกับการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ระดับ 0% เป็นระยะเวลานาน ในการส่งสัญญาณชี้นำเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหนุนกระแสคาดการณ์ของตลาดที่ว่าเฟดมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย
- กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 13 ธ.ค. ปรับตัวลง 6,000 ราย แตะที่ 289,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ และเป็นสัญญาณล่าสุดว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยสะท้อนว่าการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าอุปทานพลังงานทั่วโลกจะมีมากกว่าอุปสงค์ หลังจากที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันไม่มีการส่งสัญญาณว่าจะปรับลดการผลิต โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.36 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 1.91 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
- รมว.พลังงานรัสเซีย เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียจะยังคงอยู่ที่ 10.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2558 พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าราคาน้ำมันจะมีเสถียรภาพด้วยตัวเอง และรัสเซียกำลังพิจารณาโครงการลงทุนบางแห่งของบริษัทพลังงาน