นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.88/89 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ ก่อนจะขยับอ่อนค่าเล็กน้อยมาอยู่ที่ 32.90/91 บาท/ดอลลาร์ เมื่อเวลา 08.40 น.
"ตลาดค่อนข้างบาง เพราะตลาดต่างประเทศปิดทำการกันหมด คงต้องดูว่ามี flow หรือไม่"" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-32.95 บาท/ดอลลาร์เช่นเดิม
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.34 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 120.46 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2200 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2000 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.9060 บาท/ดอลลาร์
- China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวขึ้น 0.34% แตะที่ 6.1213 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ หลังจากทะยานขึ้นอย่างมากเมื่อวานนี้จากข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้มีการขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2200 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2178 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5557 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5519 ดอลลาร์
- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการในวันนี้เนื่องในวันคริสต์มาส ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอ่อนตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,804.84 จุด ลดลง 49.39 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,992.46 จุด เพิ่มขึ้น 19.93 จุด และดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,186.83 จุด เพิ่มขึ้น 0.65 จุด
ตลาดหุ้นฮ่องกง ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันคริสต์มาส
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 18,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงจีดีพีไตรมาส 3 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,030.21 จุด เพิ่มขึ้น 6.04 จุด หรือ +0.03%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,773.47 จุด เพิ่มขึ้น 8.05 จุด หรือ +0.17% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,081.88 จุด ลดลง 0.29 จุด หรือ -0.01%
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากได้ปลีกตัวออกไปอยู่นอกตลาด ก่อนที่จะถึงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 343.61 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,295.85 จุด ลดลง 19.12 จุด หรือ -0.44% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,609.93 จุด เพิ่มขึ้น 11.75 จุด หรือ +0.18% ส่วนตลาดหุ้นเยอรมนีปิดทำการเนื่องในวันคริสต์มาสอีฟ
- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐมีการเปิดเผยข้อมูลด้านแรงงานในเชิงบวก ซึ่งได้ช่วยชดเชยการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ โดยดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 11.75 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 6,609.93 จุด
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งรวมถึงจำนวนคนว่างงานที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ.ร่วงลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ระดับ 1,173.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน มี.ค.ลดลง 5.7 เซนต์ ปิดที่ 15.71 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 60 เซนต์ ปิดที่ 1,191.1 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มี.ค.ลดลง 6.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 807.80 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ(EIA) เผยสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ
โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ร่วงลง 1.28 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน ก.พ.ร่วงลง 1.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.24 ดอลลาร์/บาร์เรล