(เพิ่มเติม) ธปท.ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 57 เหลือโต 0.8%, ปี 58 เหลือโต 4.0%

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 26, 2014 15:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 57 มาที่ 0.8% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 1.5% และปี 58 ปรับลดลงมาที่ 4.0% จาก 4.8% หลังประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ตลอดช่วงประมาณการ โดยความเสี่ยงต่อประมาณการเศรษฐกิจสมดุล เนื่องจากมีโอกาสที่เศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำกว่ากรณีฐาน

ปัจจัยที่นำมาพิจารณา คือ เศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวกว่าคาด และส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้า รวมทั้งรายได้เกษตรที่หดตัว อาจส่งผลต่อการบริโภคของครัวเรือนมากกว่าคาด

ทั้งนี้ ธปท.ประมาณการอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับลดลงเล็กน้อยในปี 58 มาที่ 1.2% จากเดิมคาด 1.3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงมาที่ 1.2% จากคาด 2.1% ขณะที่การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มฟื้นตัวช้าตามเศรษฐกิจคู่ค้าที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด โดยปี 57 การส่งออกคงติดลบ 0.5% จากเดิมคาดขยายตัว 0.0% ส่วนนำเข้าปีนี้ติดลบ 7.5% จากคาดติดลบ 6.8% ส่วนปี 58 ประเมินว่าการส่งออกจะขยายตัว 1% และการนำเข้าเติบโต 4%

นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธปท. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงรายงานนโยบายการเงิน ฉบับเดือน ธ.ค.57 ว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ขยายตัวต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ตลอดช่วงประมาณการ ทั้งอุปสงค์ในประเทศและการส่งออก โดยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนปรับดีขึ้นอย่างช้าๆ ตามการจ้างงานและรายได้นอกภาคเกษตรที่ค่อยๆ ปรับดีขึ้น และกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายในสินค้าคงทนโดยเฉพาะยานยนต์ฟื้นตัวช้ากว่าคาด เนื่องจากข้อจำกัดจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับมาตรการช่วยเหลือของรัฐไม่สามารถชดเชยรายได้ที่ลดลงจากราคาสินค้าเกษตรได้ทั้งหมด นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มล่าช้าและต่ำกว่าคาดโดยเฉพาะการลงทุน ส่วนหนึ่งจากการตรวจสอบความโปร่งใสและการทบทวนโครงการลงทุน ข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพการเบิกจ่ายของหน่วยงานภาครัฐที่เพิ่มขึ้นไม่ทันกับขนาดของโครงการลงทุน รวมทั้งการขาดแคลนแรงงานในภาคก่อสร้าง ซึ่งเมื่อรวมกับอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวช้าส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนส่วนใหญ่มีแนวโน้มชะลอออกไป ยกเว้นการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคมที่เพิ่มขึ้นในครึ่งหลังของปี 57 เพื่อรองรับความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและเครือข่าย 3G

ส่วนการส่งออกสินค้ามีแนวโน้มฟื้นตัวช้าตามเศรษฐกิจคู่ค้าที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด โดยเฉพาะกลุ่มประเทศยูโร ญี่ปุ่นและจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกของเอเชียรวมทั้งไทย แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัวต่อเนื่องก็ตาม นอกจากนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และข้อจำกัดด้านการผลิตที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไขยังคงเป็นปัจจัยกดดันการส่งออกไปอีกระยะหนึ่ง สำหรับการส่งออกบริการปรับดีขึ้นตามนักท่องเที่ยวจีนที่ความเชื่อมั่นฟื้นตัวเร็ว และในระยะข้างหน้าคาดว่าจะได้รับปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติมจากราคาน้ำมันที่ลดลง แต่โดยรวมการฟื้นตัวยังค่อนข้างจำกัดเนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรปและรัสเซีย รวมทั้งนักท่องเที่ยวบางส่วนอาจยังกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองในไทย

แรงกดดันเงินเฟ้อลดลงมากจากด้านต้นทุนเป็นสำคัญ โดยราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงมากและมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำตลอดช่วงประมาณการ เนื่องจากอุปทานจากกลุ่มประเทศ Non-OPEC เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะการผลิต Shale Oil ของสหรัฐฯ ขณะที่กลุ่ม OPEC คงระดับการผลิตไว้เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดประกอบกับความต้องการน้ำมันในตลาดโลกยังมีไม่มากตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้า

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำกดดันให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกและอัตราเงินเฟ้อโลกลดลง เช่นเดียวกับอัตราเงินเฟ้อไทยที่มีแนวโน้มลดลงตั้งแต่ปลายปี 2557 และคาดว่าจะลดลงต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปโครงสร้างราคาพลังงานในประเทศและเงินบาทที่อ่อนค่าได้ทอนผลของราคาน้ำมันดิบต่อเงินเฟ้อลงบ้าง สำหรับแรงกดดันด้านอุปสงค์ต่อเงินเฟ้อต่ำกว่าที่ประเมินไว้ในรายงานฉบับก่อนตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ช้ากว่าคาดสะท้อนจากช่องว่างการผลิตที่คาดว่ายังไม่ปิดตลอดช่วงประมาณการ เช่นเดียวกับการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ลดลง

ดังนั้น คณะกรรมการฯ จึงประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ตลอดช่วงประมาณการ โดยความเสี่ยงต่อประมาณการเศรษฐกิจสมดุลเนื่องจากโอกาสที่เศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำ กว่ากรณีฐาน จาก(1) เศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวกว่าคาด และส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้า และ (2) รายได้เกษตรที่หดตัวอาจส่งผลต่อการบริโภคของครัวเรือนมากกว่าคาด ใกล้เคียงกับโอกาสที่เศรษฐกิจจะขยายตัวสูงกว่ากรณีฐานจากภาครัฐที่อาจเร่งเบิกจ่ายได้เร็วและทำให้การใช้จ่ายภาคเอกชนฟื้นตัวเร็วกว่าคาดตามไปด้วย แผนภาพรูปพัด (Fan Chart) ของประมาณการเศรษฐกิจจึงสมดุลตลอดช่วงประมาณการ

ส่วนประมาณการอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับลดลงเล็กน้อยในปี 58 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงตลอดช่วงประมาณการ โดยความเสี่ยงต่อประมาณการอัตราเงินเฟ้อสมดุล เนื่องจากโอกาสที่เงินเฟ้อจะสูงกว่ากรณีฐานจากราคาน้ำมันที่อาจสูงกว่าคาดหากกลุ่มประเทศ OPEC ปรับลดกำลังการผลิตใกล้เคียงกับโอกาสที่เงินเฟ้อจะต่ำกว่ากรณีฐานจากราคาน้ำมันที่อาจต่ำกว่าคาดหากจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า แผนภาพรูปพัด (Fan Chart) ของการประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจึงสมดุลตลอดช่วงประมาณการ

ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.57 คณะกรรมการฯ ยังคงประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้อัตราการขยายตัวปี 58 จะต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ จากข้อจำกัดด้านการใช้จ่ายภาครัฐที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งส่งผลให้ภาคธุรกิจเลื่อนการลงทุนออกไป ขณะที่การส่งออกมีความเสี่ยงมากขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้า ส่วนแรงกดดันเงินเฟ้อยังไม่ต่ำลงจนน่ากังวลเพราะเป็นผลจากราคาพลังงานที่ลดลงเป็นสำคัญ และเสถียรภาพทางการเงินโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยความเสี่ยงสะสมจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมาระยะหนึ่งยังอยู่ในวงจำกัด

คณะกรรมการฯ จึงมีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.00 ต่อปี ทั้งนี้ ในระยะต่อไปคณะกรรมการฯ เห็นสอดคล้องกันว่านโยบายการเงินควรอยู่ในระดับผ่อนปรน เพื่อช่วยประคองให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เข้มแข็งขึ้น ซึ่งปัจจัยที่สำคัญอีกประการคือการเร่งรัดการใช้จ่ายภาครัฐให้เป็นไปได้ตามเป้าหมาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ