รมช.พาณิชย์เยือนเมียนมาร์กลางม.ค.นี้ เร่งร่วมมือการค้าลงทุนในเขตศก.พิเศษแม่สอด

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 13, 2015 11:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 14-15 มกราคม 2558 จะเดินทางเยือนเมียนมาร์ เพื่อหารือร่วมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์สหภาพเมียนมาร์ ในประเด็นความร่วมมือด้านการลงทุน โดยเฉพาะการค้าการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด จ.ตาก และจะเป็นประธานเปิดงาน Thailand Week 2015 ร่วมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของเมียนมาร์ ณ กรุงย่างกุ้ง ซึ่งภายในงานจะมีกิจกรรมเจรจาธุรกิจ การแสดงสินค้า โดยปีนี้มีบริษัทไทยร่วมงาน 177 ราย และบริษัทผู้นำเข้าสินค้าไทยในเมียนมาร์ 35 ราย ประกอบด้วย อาหารและเครื่องดื่ม 60 คูหา ของใช้ของตกแต่งบ้าน 44 คูหา เสื้อผ้าและรองเท้า 26 คูหา สุขภาพและความงาม 45 คูหา ธุรกิจบริการ(โรงแรม/ก่อสร้าง/การศึกษา/สปา/แฟรนไชส์) 9 คูหา ชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์ 11 คูหา คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน 30,000 คน

นอกจากนี้ ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ในการร่วมเป็นหุ้นส่วนเพื่อความมั่นคงและการพัฒนา ที่มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการส่งเสริมและเร่งรัดผลักดันการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นในปี 2558

สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด จ.ตาก เชื่อมตรงกับเขตเศรษฐกิจชายแดนเมียวดี เมียนมาร์สามารถเชื่อมต่อสู่ท่าเรือเมาะละแหม่ง และกรุงย่างกุ้ง ได้สะดวก ขณะที่รัฐบาลเมียนมาร์มีนโนบายดึงดูดนักลงทุนต่างชาติที่น่าสนใจมาก เช่น ได้รับยกเว้นภาษีนิติบุคคล 5 ปี คนที่ทำงานในบริษัทที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนเสียภาษีเงินได้เพียงร้อยละ 10 (ปกติร้อยละ 15) เขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด มีศักยภาพในการพัฒนาสูงเนื่องจากมีฐานการลงทุนเดิมในพื้นที่ ที่มีแรงงานพร้อม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น เช่น สิ่งทอ อุตสาหกรรมสินค้าเกษตรแปรรูปเฟอร์นิเจอร์ นอกจากนี้ พื้นที่ที่สามารถอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าข้ามแดน คลังสินค้า สามารถจัดตั้งเป็นศูนย์โลจิสติกส์ที่มีความได้เปรียบ นอกจากนี้ยังเป็นตลาดการค้าชายแดนที่สำคัญ และเพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าชายแดนให้มีความคึกคัก กระทรวงพาณิชย์จึงมีกำหนดจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า การจับคู่ธุรกิจการค้า และการสัมมนา ในวันที่ 28 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2558 ณ อำเภอแม่สอด จ.ตาก

รมช.พาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สินค้าและธุรกิจไทยที่มีศักยภาพและโอกาสสูงที่ควรลงทุนในตลาดเมียนมาร์ คือ กลุ่มอุปโภคบริโภคในการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยวต่างๆ กลุ่มเครื่องจักรกลการเกษตร เช่น รถไถนา เครื่องพ่นยาฆ่าแมลง เครื่องสูบน้ำ เครื่องสีข้าวขนาดเล็ก กลุ่มชิ้นส่วนและอุปกรณ์อะไหล่ยานยนต์ เพราะส่วนใหญ่ในเมียนมาร์จะเป็นยานยนต์มือสอง เป็นโอกาสให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้ได้เพิ่มขึ้น กลุ่มวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเริ่มเปิดประเทศในช่วงแรกๆของเมียนมาร์ เช่น ธุรกิจการท่องเที่ยวและร้านอาหาร สินค้าประเภทไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไทยมีศักยภาพและสามารถเข้าไปจับจองพื้นที่ทางการตลาดได้ไม่ยาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ