"ในส่วนของไทยเห็นเงินไหลเข้ามากขึ้นจากปริมาณเงินที่มากขึ้น ในส่วนนี้ ธปท.จะต้องดูแล ที่ผ่านมาเห็นว่าตามทฤษฎีการสกัดเงินทุนไม่ให้ไหลเข้าประเทศมากขึ้น ต้องมีการปรับลดดอกเบี้ยของเราลง เพื่อเป็นการแก้เกม ปัจจุบัน ธปท.ก็มีมาตรการอยู่แล้วน่าจะใช้ได้ผล อยากให้ ธปท.ดูแลบริหารค่าเงินตามทฤษฎี"รมว.คลัง กล่าว
รมว.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้ในส่วนของกระทรวงการคลังคงยังไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเสริมออกมาดูแลเรื่องนี้ แต่ก็ยอมรับว่าเป็นห่วงภาคการส่งออกที่อาจจะได้รับกระทบโดยตรงจากการแข็งค่าของเงินบาท แต่อีกมุมหนึ่งมาตรการดังกล่าวที่กำหนดปริมาณเงินเพิ่มขึ้น จะทำให้กำลังซื้อในยุโรปเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งก็เป็นผลดีกับภาคส่งออกของไทย
"เราไม่ควรจะไปตกใจมากกับค่าเงินที่แข็งค่าขึ้น เพราะคู่แข่ง อย่างมาเลเซีย สิงคโปร์ ก็เจอในเรื่องนี้เหมือนกัน โดนเท่าๆ กันหมด"รมว.คลัง กล่าว
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)กล่าวว่า ผลกระทบที่จะเกิดหลังจากนี้คงทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบมากขึ้น และมองว่าเงินจะไหลเข้าที่ตลาดทุนมากสุด เพราะดอกเบี้ยต่ำ
ในระยะสั้นอาจทำให้เกิดความผันผวน โดยเฉพาะเงินบาทอาจจะแข็งค่าขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการที่ส่งออกไปยุโรปอาจจะต้องมีการบริหารความเสี่ยงเพิ่มเติม เพราะค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง ส่วนผู้ประกอบการนำเข้าช่วงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีในการนำเข้าเครื่องจักรจากยุโรปเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ส่วนผลในระยะยาวให้จับตาค่าเงินยูโรที่ยังอ่อนค่า เพระต่างชาติห่วงความสามารถการแข่งขันด้านราคา(currency war)