โดยสาเหตุที่ต้องนำเข้าเหล็กลวดคาร์บอนต่ำจากจีน เพราะมีคุณภาพดีกว่าสินค้าชนิดเดียวกันที่ผลิตได้ในประเทศ เนื่องจากใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ทันสมัยกว่า ทำให้สามารถขายได้ในราคาต่ำกว่าสินค้าที่ผลิตได้ในประเทศมาก เช่น ราคาในประเทศตันละ 18,800 บาท หรือประมาณตันละ 570 เหรียญสหรัฐฯ แต่สินค้าที่นำเข้าจากจีนตันละประมาณ 400 กว่าเหรียญฯ เท่านั้น ซึ่งไม่ได้เป็นการทุ่มตลาดหรือขายต่ำกว่าต้นทุนการผลิตแน่นอน อีกทั้งยังมีหลายขนาดที่ต้องการ และยังมีการส่งมอบตรงเวลาอีกด้วย
"ถ้าเรียกเก็บภาษีเอดีสินค้าดังกล่าวจากจีน ผู้นำเข้าและผู้ใช้เดือดร้อนมาก เพราะจะทำให้ต้นทุนการนำเข้าเหล็กชนิดนี้สูงขึ้น ทำให้ต้องขึ้นราคาขายสินค้า กระทบผู้บริโภคในประเทศ ขณะเดียวกันเมื่อผลิตสินค้าสำเร็จรูปส่งออกไปต่างประเทศ ก็ไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าจากคู่แข่ง เช่น เวียดนาม ที่ใช้เหล็กชนิดนี้จากจีนได้ จนอาจต้องปิดกิจการ หรือย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้านที่มีต้นทุนต่ำกว่า ที่สำคัญ ยังจะทำให้แรงงานกว่าแสนคนในอุตสาหกรรมผู้ใช้ได้รับผลกระทบด้วย" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการนำเข้าเหล็กลวดคาร์บอนต่ำจากจีนจำนวนมาก และปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพราะราคาสินค้าจากจีนต่ำ และอุตสาหกรรมผู้ใช้เหล็กดังกล่าวภายในประเทศขยายตัวมากขึ้น โดยมีอุตสาหกรรมที่ใช้เหล็กลวดคาร์บอนต่ำผลิตเป็นสินค้าใช้ในประเทศและส่งออกรวมกันกว่า 1,000 ราย สามารถใช้ผลิตเป็นสินค้าที่หลากหลาย เช่น ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เช่น น็อต ตะปู ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ คอมพิวเตอร์ กระทั่งทำตะแกรงปิ้งย่าง รถเข็นในห้างสรรพสินค้า เป็นต้น