กรมสรรพสามิตปรับเป้ารายได้ลง 8 พันลบ.หลังภาษีน้ำม้นเก็บไม่ได้ตามคาด

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday March 29, 2015 16:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มีการปรับประมาณการรายได้ภาษีที่จัดเก็บในปีงบประมาณ 2558 ใหม่ เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา โดยปรับลดลงจาก 448,900 ล้านบาทในช่วงที่ประเมินการจัดทำงบประมาณปี 2559 ลงเหลือ 440,600 ล้านบาท หรือลดลงกว่า 8,000 ล้านบาท แต่ก็มากกว่าประมาณการณ์ตามเอกสารงบประมาณที่กำหนดไว้ 421,400 ล้านบาท เนื่องจากภาษีน้ำมันไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ที่ต้องปรับภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 2 บาทต่อลิตรตั้งแต่ต้นปี แต่มีการปรับในช่วงต้นปีนี้ทำให้รายได้หายไปหลายเดือน ประกอบกับภาษีอื่นไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากแม้ว่าในช่วง 5 เดือนแรกยังมีภาษีรถยนต์ที่จัดเก็บได้ลดลงมากที่สุด เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจและยอดขายที่ลดลง

ทั้งนี้ ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่หายไปจากช่วงแรกอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อเดือน และปรับตัวดีขึ้นเป็นหายไป 2,000 ล้านบาทต่อเดือน เดือนล่าสุดลดไปประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท และเริ่มทรงตัว จึงมองว่าแนวโน้มครึ่งปีหลังน่าจะจัดเก็บได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากภาคเอกชนมีการจัดแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อมากขึ้นเห็นได้จากงานมอเตอร์โชว์ที่มีรถรุ่นใหม่และแคมเปญผ่อนร้อยละ 0 มาเป็นตัวกระตุ้น ซึ่งจะไปดูบรรยากาศการขายรถยนต์ในช่วงวันสุดท้ายของการจัดงาน

สำหรับเป้าหมายใหม่ภาษีรถยนต์จะเพิ่มจากเดิม 83,000 ล้านบาท เป็น 87,000 ล้านบาท สมมติฐานบนการผลิตและขายในประเทศที่ 950,000 คันปีนี้ตามที่ภาคเอกชนคาดการณ์ไว้ ส่วนภาษีน้ำมันแม้จะมีรายได้เพิ่มเข้ามาอีกประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาทตามการปรับขึ้นภาษี 2 ครั้ง แต่ยังต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดยเป้าหมายรายได้น้ำมันใหม่จะอยู่ที่ 121,800 ล้านบาท จากเดิมคาดว่าจะเก็บได้ 136,600 ล้านบาท ส่วนภาษีชนิดอื่นไม่เปลี่ยนแปลง ยกเว้นภาษีเหล้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 62,000 ล้านบาท เป็น 64,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมากรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้รวม 180,139 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 4,972 ล้านบาท มีเพียงภาษีน้ำมันที่ยังเกินเป้าหมาย โดยในช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์นี้กรมฯ กำชับจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบการลักลอบขายสินค้าเถื่อนหรือสินค้าหนีภาษี โดยเฉพาะเหล้าบุหรี่ เพราะหากมีการปรับราคาใหม่จะจูงใจให้มีการลักลอบมากขึ้น และขอความร่วมมือประชาชนอย่าซื้อสินค้าหนีภาษี เพราะอาจจะเป็นสินค้าปลอมและเป็นอันตรายต่อการบริโภค


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ