(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 32.62/64 แข็งค่าจากแรงขายดอลล์ จับตา GDP สหรัฐฯ-เฟด-กนง.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 28, 2015 11:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.62/64 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าลงมาจากเย็นปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 32.69/71 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์หลังราคาขยับขึ้นไปยืนเหนือ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์
"มีแรงขายดอลลาร์ออกมา เงินบาทก็เลยแข็งค่า คาดว่าวันนี้ตลาดคงจะแกว่งแคบรอตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ของสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศก่อนผลประชุม FOMC และผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน กล่าวว่า สำหรับวันนี้ให้กรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไว้ระหว่าง 32.55-32.65 บาท/ดอลลาร์ แนวต้านอยู่ที่ 32.65 และ 32.70 บาท/ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 32.55 และ 32.50 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.6367 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(27 เม.ย.) อยู่ที่ 1.75820% ส่วน THAI BAHT FIX 6M(27 เม.ย.) อยู่ที่ 1.76014%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.06 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 119.25 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0880 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0829 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.6210 บาท/ดอลลาร์
  • พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานตัวเลขส่งออกเดือน มี.ค. อย่างไม่เป็นทางการมีมูลค่าลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 4% เนื่องจากราคายางพารา และน้ำมันปรับลดลง ส่งผลให้ 3 เดือนแรกของปีหรือไตรมาสแรกส่งออกไทยติดลบกว่า 4% ซึ่งในวันที่ 28 เม.ย.นี้ ปลัดกระทรวงพาณิชย์จะแถลงสถานการณ์ตัวเลขส่งออกเดือน มี.ค. 58 อย่างเป็นทางการอีกครั้ง พร้อมปรับประมาณการเป้าหมายส่งออกทั้งปีของกระทรวงพาณิชย์ใหม่เบื้องต้นน่าจะขยายตัวเพียง 1% จากเดิมที่ตั้งเป้า 4%
  • ทีเอ็มบีเตรียมทบทวนเป้าหมายเศรษฐกิจไทย ชี้ตัวแปรสำคัญ การเบิกจ่าย-ลงทุนภาครัฐที่ต้องเข็นออกมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงต่อไป หากยังนิ่งคาดจีดีพีต่ำกว่า 3% นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย (ทีเอ็มบี) เปิดเผยว่า ธนาคารจะมีการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนหน้า โดยตัวแปรสำคัญในการพิจารณาได้แก่ การเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐว่าจะเร่งตัวต่อเนื่องได้จากเดือนมีนาคมหรือไม่ โดยการเบิกจ่ายของรัฐในช่วงที่ผ่านมา ทำได้เพียง 26% จากที่ควรจะอยู่ในระดับ 35-40% ซึ่งหากเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ขาดแรงส่งจากปัจจัยดังกล่าว ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ตัวเลขเศรษฐกิจทั้งปีจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งในส่วนของทีเอ็มบีตั้งเป้าหมายจีดีพีโต 3.5%
  • บิ๊กแบงก์กสิกรฯไม่ห่วงเอ็นพีแอลแบงก์เพิ่ม ยันตั้งสำรองฯอยู่ในระดับสูงแล้ว ระบุเป็นตัวสะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ไม่ฟื้นอย่างที่คาด สินเชื่อขยายได้ไม่มาก เตือนรัฐเร่งแก้ปัญหาระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใบเหลืองสินค้าประมง การบินพลเรือน หรืออื่นๆ หวั่นแก้ไม่ทันกระทบส่งออกหนัก
  • "แบงก์ชาติ" กำชับธนาคารพาณิชย์ดูแลลูกค้า "เชิงรุก" ป้องปัญหาสินเชื่อพัฒนาเป็น "เอ็นพีแอล" แนะดูแลแต่เนิ่นๆ ยอมรับหนี้เสียพุ่งจาก "เช่าซื้อรถยนต์-เอสเอ็มอี-อสังหาฯ" คาดแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น ดึงสถานการณ์ทรงตัว มั่นใจไม่กระทบฐานะแบงก์ เหตุกันสำรองไว้สูง
  • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบยูโรและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) ขณะที่กรีซมีการปรับเปลี่ยนคณะทำงานในทีมเจรจาหนี้ และนักลงทุนจับตาดูการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันอังคารและพุธนี้
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 16 เซนต์ ปิดที่ 56.99 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 45 เซนต์ ปิดที่ 64.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 28.2 ดอลลาร์ หรือ 2.40% ปิดที่ 1,203.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบเท่ากับ 1,203.35 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 18.63 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
  • บริษัทมาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นสำหรับภาคบริการของสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 57.8 ในเดือนเม.ย.
  • นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ประกาศปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ในคณะเจรจาของกรีซที่จะเข้าเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้จากทางยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
  • สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ เปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ 4 แห่งคือ บาร์เคลย์ส, เอชเอสบีซี, ลอยด์ และรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ จะเผชิญกับค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย และค่าปรับอันเนื่องจากการทำผิดกฎระเบียบอีก 1.9 หมื่นล้านปอนด์ (2.9 หมื่นล้านดอลลาร์)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ