นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.30/32 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวเท่าตอนเปิดตลาดช่วงเช้า ระหว่างวันเงินบาทไปทำโลว์ที่ระดับ 33.16 บาท/ดอลลาร์ และทำไฮที่ระดับ 33.35 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากเงินทุนไหลออกหลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.50% และการประกาศมาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศเพิ่มเติมของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เมื่อสัปดาห์ก่อน
"วันนี้บาทเหวี่ยงตัวแรง แม้จะทยอยแข็งค่าแต่มีแรงเทขายดอลลาร์ของ exporter ต่อเนื่อง ช่วงบ่ายมาปิดเท่าตอนเปิดตลาด" นักบริหารเงินเงิน ระบุ
นักบริหารเงินเงิน คาดวันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 33.25-33.50 บาท/ดอลลาร์
"ช่วงวันหยุดเงินบาททำนิวไฮ 6-7 ครั้ง พรุ่งนี้น่าจะอ่อนค่าต่อเนื่องแต่คงไม่ผ่าน 33.50(บาท/ดอลลาร์)" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.90 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 119.90 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1190 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1190 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,519.88 จุด ลดลง 6.86 จุด, -0.45% มูลค่าการซื้อขาย 40,881.49 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 58.28 ล้านบาท(SET+MAI)
- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน3 สถาบัน (กกร.) ว่า กกร.ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ส่งออกอย่างใกล้ชิด หลังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเดือน มี.ค.58 ยังอยู่ในภาวะเปราะบาง จากความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจคู่ค้าเป็นไปในเชิงลบมากขึ้น โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มเติม ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงติดต่อกันสองครั้ง และล่าสุดมาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศจะเป็นปัจจัยที่ช่วยลดแรงกดดันต่อทิศทางค่าของเงินบาทได้มากน้อยเพียงใด
- ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ได้ปรับลดเป้าหมายสินเชื่อรายย่อยลงเป็น 7-8% จากเป้าหมายเดิมที่ 6-9% เนื่องจากสัญญาณของหนี้ครัวเรือนในปัจจุบันปรับเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 85% ซึ่งส่งผลให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง และมีผลต่ออัตราการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มเป็น 60% จากเดิมที่ 50%
- ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยช่วงหยุดยาววันจักรีและวันแรงงานแห่งชาติปีนี้มียอดนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น 20% สร้างรายได้กว่า 100,000 ล้านบาท
- กรีซได้ชำระหนี้จำนวน 200 ล้านยูโร หรือ 222 ล้านดอลลาร์ให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) แล้วในวันนี้ และจะต้องจ่ายหนี้อีกงวดให้แก่ IMF ในวันที่ 12 พ.ค.58 จำนวน 750 ล้านยูโร
- ที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป(ECB) เตรียมหารือประเด็นที่จะมีการปรับลดมูลค่าหลักทรัพย์ที่ธนาคารกรีซใช้ในการค้ำประกันเงินกู้ฉุกเฉินเพิ่มเติมหรือไม่ นอกจากนี้จะพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับวงเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือ Emergency Liquidity Assistance(ELA) เพิ่มเติมให้แก่ธนาคารของกรีซ หลังจากธนาคารกลางยุโรปได้เพิ่มเพดาน ELA ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็น 7.69 หมื่นล้านยูโร หรือ 8.7 หมื่นล้านดอลลาร์
- ผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือน เม.ย.58 ขยับลงเล็กน้อยที่ 54.1 จาก 54.2 ในเดือน มี.ค.58 แต่ปรับตัวขึ้นจากข้อมูลเบื้องต้นที่ 53.7 โดยดัชนี PMI ภาคบริการของเยอรมนีปรับตัวลงแตะ 54.0 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จาก 55.4 ในเดือน มี.ค.58 ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการของฝรั่งเศสลดลงสู่ระดับ 51.4 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จาก 52.4 ในเดือน มี.ค.58 เช่นเดียวกัน ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการของอิตาลีขยายตัวสูงสุดในรอบ 10 เดือน เพิ่มขึ้นแตะ 53.1 จาก 51.6 ในเดือน มี.ค.58 และดัชนี PMI ภาคบริการของสเปนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 60.3 ขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.49 จากระดับ 57.3 ในเดือน มี.ค.58