น.ส.ซ่อนกลิ่น พลอยมี ผู้อำนวยการหน่วยพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมหรือหน่วย BUILD (BOI Unit for Industrial Linkage Development) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า การจัดงานซับคอนไทยแลนด์ 2015 ระหว่างวันที่ 13-16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจภายในงานจำนวน 4,611 คู่ คิดเป็นมูลค่าที่จะซื้อขายชิ้นส่วนประมาณ 7,918 ล้านบาท ซึ่งทั้งตัวเลขการเจรจาจับคู่ธุรกิจและมูลค่าสูงกว่างานซับคอนไทยแลนด์ 2014 (จับคู่ธุรกิจ 3,826 คู่ และมูลค่า 7,046 ล้านบาท) โดยกลุ่มที่มีการเจรจาธุรกิจสูงสุดของการจัดงานครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรกลตามลำดับ ขณะเดียวกันมีจำนวนผู้สนใจเข้าชมงานตลอดการจัดงานทั้ง 4 วัน จำนวนกว่า 21,000 คน
"ความสำเร็จของการจัดงานซับคอนฯ ครั้งที่ 9 นี้ นอกจากจะช่วยให้เกิดมูลค่าการซื้อขายชิ้นส่วนจากผู้ประกอบการไทยแล้ว ยังช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการต่างชาติอีกด้วย อาทิ การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตต่างๆ ขณะที่การแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบการต่างประเทศได้เข้าร่วม 15 ประเทศ เป็นสิ่งชี้วัดว่างานซับคอนไทยแลนด์ เป็นงานที่ผู้ซื้อและ ผู้ขายทั้งในและต่างประเทศให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นทุกปี" น.ส.ซ่อนกลิ่นกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดให้กับการจัดงานซับคอนไทยแลนด์ในปีถัดไป หน่วย BUILD จะมุ่งเน้นการเข้าถึงนักลงทุนต่างชาติในไทยซึ่งเป็นผู้ซื้อหลักให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนจากญี่ปุ่น ซึ่งได้เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นที่มีแนวโน้มจะขยายการลงทุนในไทยมากยิ่งขึ้น อาทิ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยาน และชิ้นส่วนเครื่องมือแพทย์ โดยหน่วย BUILD จะเข้าไปมีบทบาทในการเตรียมความพร้อมในการเจรจาธุรกิจและการสร้างฐานข้อมูลของกลุ่มอุตสาหกรรมสนับสนุนและอุตสาหกรรมชิ้นส่วนในไทย เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการซื้อชิ้นส่วนจากต่างประเทศ และสามารถเสนอรายชื่อบริษัทผู้รับช่วงการผลิตของไทยได้อย่างรวดเร็ว