เงินบาทเปิด 33.73/74 คาดแกว่งแคบ จับตาตัวเลข GDP Q1/58 ของสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 29, 2015 09:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเช้าวันนี้อยู่ที่ระดับ 33.73/74 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 33.75/76 บาท/ดอลลาร์
"เมื่อคืนเด้งขึ้นไปทำ High แถว 33.84 แล้วก็ลงมา พยายามขึ้นทุกวัน หลังจาก Break 33.80 มาได้ แต่ก็มีแรงขายทำกำไรรออยู่เรื่อยๆ ดอลลาร์เยนก็พยายามจะ Break ระดับ 124 เยน/ดอลลาร์ให้ได้" นักบริหารเงิน กล่าว

สำหรับทิศทางวันนี้รอดูตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 1/58 ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในค่ำนี้ซึ่งอาจจะมีผลต่อดอลลาร์

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทคงจะแกว่งแคบต่อไป เบื้องต้นมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทระหว่าง 33.65-33.80 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123.70 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 123.85 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0906 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0943 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.7970 บาท/ดอลลาร์
  • แบงก์รัฐทยอยหั่นดอกเบี้ยเงินกู้-ฝาก ล่าสุดเอสเอ็มอีแบงก์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ เอ็มอาร์อาร์-เอ็มเอฟอาร์ 0.25% ด้านออมสินปรับลดทั้งสองขา 0.05-0.15% มีผล 28 พ.ค.นี้
  • สศค.เผยเศรษฐกิจเดือนเมษายนยังโตได้จากการบริโภคภาคเอกชน แรงหนุนภาคท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวจีนและมาเลเซีย ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยทั้งภายในและภายนอกอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ยอมรับการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวโดยเฉพาะการลงทุนในหมวดก่อสร้าง
  • นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยกรณีธนาคารพาณิชย์เรียกร้องให้ ธปท. ผ่อนปรนหลักเกณฑ์การตั้งสำรองและการจัดชั้นหนี้ลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) หลังจากที่ธนาคารร่วมมือช่วยเอสเอ็มอีและลดดอกเบี้ยไปแล้วว่า จากการปรึกษาหารือกับธนาคาร
  • ผู้ว่าการ ธปท.ยอมรับการส่งออกหันมาแข่งขันราคาด้านค่าเงินอ่อนมากขึ้นแทนกำลังซื้อหด หวังกำลังซื้อผู้ส่งออกช่วยผลักดันการบริโภคในประเทศและเศรษฐกิจไทย แต่ไม่ลงเล่นสงครามค่าเงิน เพื่อให้ค่าเงินอ่อนเร็วไป ห่วงเศรษฐกิจจนมุมและเกิดเก็งกำไรได้ เปิด 3 ยุทธศาสตร์รับมือเฟดปรับดอกเบี้ยทั้งรักษาพื้นฐานเศรษฐกิจ รักษาความน่าเชื่อนโยบายและรักษาระบบสถาบันการเงินให้มั่นคง ด้าน "หม่อมอุ๋ย" ชี้เงินบาทยังอ่อนค่าได้อีก หวังช่วยผู้ส่งออก
  • สภาผู้ส่งออกชี้ปัญหากระทบส่งออกยังสูง ทั้งการไม่ฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย-นอก กำลังซื้อฝืด ค้าชายแดนเริ่มติดลบ ประเมินภาวะส่งออกติดลบ ต่อเนื่อง ลุ้นครึ่งปีหลังฟื้น ทั้งปีฟันธงติดลบ กระทบยอดผลิตอุตสาหกรรม เม.ย.ต่ำสุด 40 เดือนดัชนีใกล้เคียงน้ำท่วมใหญ่
  • ดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 12 ปีเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่ฟื้นตัวขึ้นจะช่วยหนุนความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ ปิดที่ 57.68 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ปรับขึ้น 52 เซนต์ ปิดที่ 62.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำปรับตัวลงติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 2.3 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ระดับ 1,188.80 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 479.4 ล้านบาร์เรล จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 23 พ.ค. เพิ่มขึ้น 7,000 ราย แตะ 282,000 ราย อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 12 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
  • สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยพุ่งขึ้น 3.4% แตะระดับ 112.4 ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2006 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1% นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณซึ่งแสดงถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐ

แท็ก เงินบาท   สหรัฐ   GDP  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ