พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้รับทราบรายงานของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศของมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เมื่อวันที่ 28 พ.ค.58 ซึ่งได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของไทยซึ่งอยู่ที่ BAA1 เนื่องจากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งอย่างมากของรัฐบาล โดยปัจจุบันไทยมีสำรองเงินตราระหว่างประเทศของไทยอยู่ที่ราว 1.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่หนี้สาธารณะของไทยก็อยู่ในระดับต่ำเพียง 45% ต่อจีดีพี ขณะที่เกณฑ์ซึ่งยอมรับได้คือ 60% ต่อจีดีพี
โดยมูดี้ส์ฯ มองว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่สูงของไทย จะช่วยชดเชยปัจจัยลบของประเทศ ส่วนความหลากหลายทางเศรษฐกิจของประเทศ ก็ถือเป็นอีกจุดแข็งหนึ่งในการจัดอันดับ ทั้งนี้เหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 ช่วยฟื้นเสถียรภาพทางการเมืองให้มีความมั่นคงมากขึ้น และลดความผันผวนทางเศรษฐกิจ
"จากการจัดอันดับดังกล่าว ท่านนายกฯได้รับทราบ และขอบคุณความตั้งใจของทุกภาคส่วนในประเทศที่ช่วยกันพลิกฟื้นสถานการณ์ทางการเมือง และเศรษฐกิจให้เกิดเสถียรภาพ จนได้รับการยอมรับ และมั่นใจจากต่างประเทศและนำไปสู่การให้เครดิตในครั้งนี้" พล.ต.สรรเสริย กล่าว
ทั้งนี้เป็นเจตนารมย์ที่ชัดเจนของรัฐบาลที่ต้องการให้การปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจที่มีความยั่งยืน มากกว่าการกำหนดนโยบายประชานิยม อัดฉีดงบประมาณที่เป็นภาพลวงตากระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และสร้างผลกระทบระยะยาวเหมือนในอดีต