นายคุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ที่ 21 จะมีขึ้นหลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ผ่านร่างแก้ไขกฎหมายพ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 กับกฎหมายภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 แล้ว โดยจะยังคงเปิดสัมปทานทั้งสิ้น 29 แปลง ส่วนแปลงใดจะใช้ระบบสัมปทาน หรือใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต(PSC) นั้น คงจะต้องรอความชัดเจนจากภาครัฐก่อน แต่มองว่าการเปิดสัมปทานรอบนี้ ความน่าสนใจอาจจะลดลงบ้างในบางแปลง
"การเปิดสัมปทานรอบ 21 ความน่าสนใจอาจลดลง บางแปลงเป็นแปลงเก่าที่เคยเปิดมาแล้วในรอบที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าแม้จะมีการขุดพบปิโตรเลียมปริมาณไม่มาก แต่ก็จะช่วยให้รักษาปริมาณสำรองปิโตรเลียมในอ่าวไทยที่ปัจจุบันอยู่ที่ 6 ปี"นายคุรุจิต กล่าว
นายคุรุจิต กล่าวอีกว่า ไทยควรจะต้องเร่งให้เกิดความชัดเจนในการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 เพราะปัจจุบันทั้งฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ต่างก็เปิดสัมปทานและมีข้อตกลงที่จูงใจให้นักลงทุนเข้าไปลงทุน
ด้นนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน กล่าวว่า ปัจจุบันเชื้อเพลิงถ่านหินเป็นที่ยอมรับและมีความต้องการใช้มากขึ้น ทำให้การผลิตไฟฟ้าจึงมีความจำเป็นต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงถ่านหินมากขึ้น ขณะที่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีสะอาดสามารถเก็บสิ่งเจือปนทั้งหมดได้ สำหรับความคืบหน้าการเตรียมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ขนาด 870 เมกะวัตต์ ของการไฟฟ้าฝใยผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ยังเดินหน้าเป็นไปตามแผน