นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กระทรวงการคลังดำเนินการนำส่งเงินของทุนหมุนเวียนที่มีสภาพคล่องส่วนเกินความจำเป็นส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ภายใต้ข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วยการให้องค์การของรัฐบาลที่ใช้ทุนหรือทุนหมุนเวียน นำทุนหรือกำไรเข้าบัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ 1 พ.ศ. 2556 เพื่อนำเงินมาเสริมฐานะการคลัง และรองรับการนำเงินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินการสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศในช่วงระยะเวลา 1 ปี ซึ่งทุนหมุนเวียนที่นำส่งตามแผนปฏิบัติการมีจำนวน 29 กองทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 28,107.17 ล้านบาท โดยข้อมูล ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2558 มีหน่วยงานของรัฐเจ้าของทุนหมุนเวียนได้นำส่งเงินแล้ว จำนวน 13,729.74 ล้านบาท
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวต่อว่า ยังมีทุนหมุนเวียนอีก 8 ทุน ที่ยังไม่ได้นำส่งเงิน รวมจำนวน 14,427.11 ล้านบาท ซึ่งได้มีการประชุมหารือร่วมกับ 8 ทุน ในวันที่ 11 มิถุนายน 2558 เพื่อเร่งนำเงินของทุนหมุนเวียนที่มีสภาพคล่องส่วนเกินความจำเป็นส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน โดยทุนหมุนเวียนทั้ง 8 ทุน คือ กองทุนเพื่อการพัฒนาและเผยแพร่ประชาธิปไตย, กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา, กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรมจังหวัด, กองทุนพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง, กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร, กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน, กองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และเงินทุนหมุนเวียนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ พร้อมจะนำส่งเงิน จำนวน 14,427.11 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ
"การดำเนินการเรื่องนี้ เป็นไปตามแผนปฏิบัติงาน ซึ่งจะรายงานสรุปผลการดำเนินงานที่ส่งเงินคืนคลังเรียบร้อยแล้ว และที่ยังขอชะลอการคืนเงินต่อคณะรัฐมนตรีภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้" นายมนัส กล่าว