นายบุญยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้แทนจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และกระทรวงมหาดไทย เพื่อดำเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบปัญหาภัยแล้งว่า กระทรวงพาณิชย์จะจัดสินค้าธงฟ้าที่จำเป็นต่อการครองชีพในราคาถูกกว่าปกติ 30-50% ไปจำหน่ายให้กับเกษตรกรในพื้นที่ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศเป็นเขตภัยพิบัติภัยแล้งแล้ว 19 จังหวัด 128 อำเภอ 755 ตำบล โดยมีครัวเรือน 790,000 ครัวเรือน หรือมีประชากรประมาณ 2 ล้านคน เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.58 และคาดว่าจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ก.ค.58
สำหรับสินค้าที่จะนำไปจำหน่ายแยกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรกจะเป็นสินค้าที่จำเป็น 4 รายการ คือ ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำตาลทราย และไข่ไก่ โดยจะลดราคาลงจากราคาตลาด 50% และอีกกลุ่มเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค 8 รายการ คือ ยาสระผม, สบู่, ยาสีฟัน, ผงซักฟอก, น้ำยาล้างจาน, ปลากระป๋อง, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และน้ำปลา โดยจะลดราคาจำหน่ายจากราคาปกติ 30-50%
ส่วนแนวทางในการดำเนินการนั้น กรมฯ จะประสานงานไปยังผู้ผลิตสินค้า เพื่อจัดส่งสินค้าที่จำเป็นมาให้ จากนั้น คสช.จะใช้รถของทหารมารับสินค้าเพื่อนำไปจำหน่ายในแต่ละตำบล โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะเป็นผู้ชี้พื้นที่เป้าหมายร่วมกับจังหวัด เพราะเป็นรู้ข้อมูลพื้นที่ๆ ประสบปัญหาภัยแล้งดีที่สุด มั่นใจว่าจะนำสินค้าราคาถูกไปจำหน่ายให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึง และครบทั้ง 755 ตำบล
"ครั้งนี้เป็นการจัดหนัก เพื่อช่วยเหลือประชาชน ดังนั้นขอให้ประชาชนซื้อสินค้าเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือนเท่านั้น อย่าซื้อกักตุนหรือซื้อไปขายต่อ เพื่อให้มีสินค้ากระจายไปอย่างทั่วถึง โดยอาจจะจำกัดปริมาณการซื้อ ยืนยันว่าสินค้าจะมีเพียงพอต่อความต้องการ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ภัยแล้งน่าจะผ่านพ้นไปในเร็วๆ นี้ เพราะขณะนี้ฝนเริ่มตกในหลายพื้นที่แล้ว" อธิบดีกรมการค้าภายใน