นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในเดือนมิ.ย.58 สูงกว่าเป้าหมายหลายหมื่นล้านบาท โดยเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีปิโตรเลียม และภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคที่ขยายตัวได้ดีขึ้น แต่ยอมรับว่าภาพรวมการจัดเก็บภาษีนิติบุคคลในปีนี้จะต่ำกว่าประมาณการแน่นอน เนื่องจากการจัดเก็บภาษีดังกล่าวจัดเก็บจากผลประกอบการของบริษัทในปี 57 ซึ่งปีที่ผ่านมาภาพรวมเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ไม่ค่อยดีนัก จึงมีผลกระทบโดยตรงต่อผลประกอบการของนิติบุคคลด้วย
"กรมฯ ได้รับมอบหมายให้จัดเก็บภาษีนิติบุคคลสูงกว่ายอดที่จัดเก็บในปี 56 ถึง 21% ซึ่งจริงๆ แล้ว หากมองดูภาพรวมเศรษฐกิจในปีที่แล้วขยายตัวได้ในระดับต่ำ นอกจากนี้ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้มอบหมายเป้าหมายการจัดเก็บภาษีนิติบุคคลเพิ่มอีก 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นงานหนัก ดังนั้นการจัดเก็บต่ำกว่าเป้าหมายจึงเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภาษีนิติบุคคลต้องจัดเก็บตามความเป็นจริงของสถานการณ์เศรษฐกิจ" อธิบดีกรมสรรพากร กล่าว
พร้อมคาดว่า การจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีนิติบุคคลน่าจะขยายตัวได้ดีขึ้นในปี 59 ซึ่งมั่นใจว่าในช่วงดังกล่าวกรมสรรพากรจะจัดเก็บได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจที่น่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น และมีภาคการท่องเที่ยวเข้ามาช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศ อีกทั้งมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบโดยเฉพาะภาคการเกษตรก็จะมีส่วนเข้ามาเสริมด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ขณะนี้กรมสรรพากรยังอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลเพื่อปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในส่วนของค่าลดหย่อน การเปิดเผยข้อมูล และภาษีซ้อน เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาได้ภายในปีงบ 59