(เพิ่มเติม) ธปท.คาดวิกฤติกรีซส่งผลตลาดเงินผันผวนระยะสั้น แต่ไม่กระทบศก.ไทยรุนแรง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 6, 2015 14:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวถึงผลกระทบหลังจากที่กรีซลงประชามติไม่ยอมรับเงื่อนไขของกลุ่มเจ้าหนี้ว่า อาจส่งผลกระทบต่อตลาดเงินให้มีความผันผวนในระยะสั้น แต่เชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยรุนแรง เนื่องจากไทยมีความเชื่อมโยงกับกรีซค่อนข้างต่ำ ทั้งในส่วนของภาคการเงินและการค้า และแม้จะมีผลกระทบทางอ้อมบ้าง แต่คาดว่าอยู่ในวงจำกัด

ทั้งนี้ การประเมินผลกระทบกรีซต่อระบบเศรษฐกิจการเงินไทยผ่านช่องทางต่างๆ พบว่า ฐานะของสถาบันการเงินจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากสถาบันการเงินของไทย ไม่ได้มีธุรกรรมทางการเงินติดต่อกับกรีซโดยตรง ส่วนผลกระทบทางอ้อมที่จะผ่านความเชื่อมโยงกับกลุ่มสถาบันการเงินในยุโรปโดยรวมก็มีอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากสถาบันการเงินของไทยปล่อยสินเชื่อหรือลงทุนในสินทรัพย์ของประเทศในยุโรปน้อยกว่า 0.5% ของสินทรัพย์รวม

ขณะที่ผลกระทบทางการค้าจะอยู่ในวงจำกัดทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากไทยมีการค้าโดยตรงกับกรีซน้อยมาก โดยไทยส่งออกไปกรีซเพียง 0.06% ของการส่งออกสินค้ารวม ส่วนผลกระทบทางอ้อมกับการค้าในประเทศกลุ่มยุโรป ที่แม้ไทยจะส่งไปยุโรปที่ 10.3% ของการส่งออกรวม แต่เมื่อพิจารณาคู่ค้าหลักในกลุ่มสหภาพยุโรป อาทิ เยอรมัน อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ ประเทศเหล่านี้ยังมีปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง จึงคาดว่าการส่งออกของไทยไม่น่าได้รับผลกระทบมากนัก

นางผ่องเพ็ญ กล่าวถึงผลกระทบต่อตลาดการเงินไทยว่า อาจได้รับผลกระทบบ้างจากความกังวลของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นต่อทางออกของปัญหาที่มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น แต่ผลกระทบโดยรวมคาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น จึงไม่น่ากังวลมากนัก ขณะที่ตลาดเงินตราต่างประเทศอาจจะผันผวนมากขึ้น เนื่องจากความผันผวนของตลาดการเงินโลกที่สูงขึ้น ทำให้นักลงทุนลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลง และหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น

ขณะที่ตลาดทุนก็มีแนวโน้มผันผวนมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากราคาหลักทรัพย์และพันธบัตร อาจปรับลดลงจากความกังวลของนักลงทุน และอาจมีเงินทุนไหลออกจากตลาดทุนของภูมิภาคและไทยบ้างแต่ไม่รุนแรง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหลักทรัพย์ของไทยไปค่อนข้างมากแล้ว ดังนั้นโอกาสที่จะมีเงินทุนไหลออกต่อเนื่องในอนาคตจึงน่าจะมีไม่มากนัก

ทั้งนี้ หากพิจารณาฐานะด้านต่างประเทศของไทย จะพบว่าเงินสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง โดยล่าสุด ณ วันที่ 26 มิ.ย.58 มีฐานะสุทธิอยู่ที่ระดับ 178.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงมีความเข้มแข็งเพียงพอที่จะรองรับความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายในระยะต่อไปได้

นางผ่องเพ็ญ กล่าวว่า แม้ผลกระทบของวิกฤติหนี้กรีซต่อเศรษฐกิจไทยยังไม่เป็นที่น่ากังวลมากนัก แต่หากปัญหาขยายวงกว้างไปประเทศอื่นๆ ในกลุ่มยูโรโซน ผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจการเงินไทยก็จะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ธปท.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป รวมทั้งเตรียมความพร้อมเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ