นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.92 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.95/97 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า เนื่องจากการประกาศตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐสูงเกินคาด ประกอบกับตลาดคลายความกังวลต่อตลาดหุ้นจีน และมีสัญญาณที่ดีเรื่องการแก้ปัญหากรีซผิดนัดชำระหนี้
"เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยหลังดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลหลัก แต่น่าจะเป็นการอ่อนค่าชั่วคราวเพราะยังต่างชาติยังมีแรงเทขายหุ้นอยู่" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.87-34.00 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 121.85 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 121.42/43 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1081 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1032/1034 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 33.9570 บาท/ดอลลาร์
- บีโอไอรับยอดขอส่งเสริมการลงทุน 6 เดือนแรกปีนี้ยังต่ำกว่าเป้าหมาย จับตาเศรษฐกิจโลกชะลอตัวฉุดการตัดสินใจของนักลงทุน แต่มั่นใจเร่งเครื่องในครึ่งปีหลังดันยอด 3 แสนล้านบาทได้ตามเป้าหมาย เผยเริ่มมีนักลงทุนขอส่งเสริมในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษแล้วทั้งไทยและเทศ
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการปาฐกถาพิเศษ "นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยกับการแข่งขันในตลาดโลก" จัดโดยสมาคมวิเทศพาณิชย์ไทย-จีนว่า อยากให้นักลงทุนทั้งไทยและจีนเข้ามาใช้ประโยชน์และหาโอกาสจากนโยบายของรัฐบาลที่วาง 4 แนวทาง
- รัฐบาลกรีซยื่นแผนการปฏิรูปการคลังต่อกลุ่มเจ้าหนี้แล้วเมื่อคืนนี้ ซึ่งแผนการดังกล่าวเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการรับความช่วยเหลือด้านการเงินครั้งใหม่จากสหภาพยุโรป(EU) นอกจากนี้แผนปฏิรูปยังมีเป้าหมายที่จะช่วยให้กรีซไม่ประสบภาวะล้มละลายและออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน ทั้งนี้คณะกรรมาธิการยุโรป(EC), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) จะพิจารณาตรวจสอบแผนการปฏิรูปดังกล่าว ก่อนที่จะรายงานต่อที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในวันเสาร์ และจากนั้นผู้นำ EU จะเป็นผู้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายว่าจะให้ความช่วยเหลือต่อกรีซหรือไม่ในการประชุมวันอาทิตย์
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นจีนช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.พุ่งขึ้น 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน ส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูความคืบหน้าของกรีซในการยื่นแผนการปฏิรูปต่อกลุ่มเจ้าหนี้ เพื่อจะเปิดทางให้กรีซรับความช่วยเหลือครั้งใหม่ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.ร่วงลง 4.3 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,159.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้น 19.8 เซนต์ ปิดที่ 15.361 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ต.ค.ร่วงลง 13.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,022.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย.ร่วงลง 15.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 638.00 ดอลลาร์/ออนซ์
- สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาการเจรจาเรื่องข้อตกลงหนี้กรีซอย่างใกล้ชิด โดยที่ประชุมสหภาพยุโรป (EU) จะจัดการประชุมในวันอาทิตย์นี้ เพื่อชี้ชะตาว่ากรีซจะได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินรอบใหม่หรือไม่ โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.1013 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1069 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ทรงตัวที่ 1.5361 ดอลลาร์สหรัฐ, ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 121.32 เยน จาก 120.64 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9488 ฟรังก์ จาก 0.9452 ฟรังก์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7441 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7426 ดอลลาร์