"สำหรับวิกฤตภัยแล้ง แม้เราจะมีวิกฤตน้ำแต่ผมเชื่อว่าคนไทยเราไม่เคยแล้งน้ำใจที่เราจะมีต่อกัน ผมกลับมองว่าน่าจะเป็นโอกาสที่เราจะได้ร่วมมือกันแสดงให้เห็นถึงความรัก ความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทุกข์ด้วยกัน สุขด้วยกัน พร้อมที่จะร่วมฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้พร้อมๆกัน...ต้องใช้น้ำให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าสูงสุด รักษาน้ำให้ได้ไปถึงเดือนสิงหาคม ถ้าฝนไม่ตกอีกก็จะเป็นปัญหาต่อไปอีกขอให้ฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำของราชการ ผู้ที่เสียหาย เรากำลังหาทางพิจารณาดูแลสัปดาห์หน้าคงชัดเจนขึ้น"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวผ่านรายการ"คืนความสุขให้คนในชาติ"เมื่อดึกวานนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะนี้ต้นทุนน้ำมีน้อยมาก ฝนก็ไม่ตกน้ำ ในเขื่อนก็มีน้อยมาก เพราะฉะนั้นก็จำเป็นต้องมีการประหยัดน้ำทุกฝ่าย ทั้งคนในชุมชนเมือง และเกษตรกรที่รัฐบาลไม่สามารถสูบน้ำให้เข้าพื้นที่ทางการเกษตรได้ เพราะต้องเก็บน้ำไว้อุปโภคบริโภค ซึ่งทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบโดยรัฐบาลกำลังหาแนวทางช่วยเหลืออยู่
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์น้ำไหลเติมเขื่อนจะดีขึ้น แต่รายงานล่าสุดพบว่า นับจากวันนี้จนถึงวันจันทร์จะเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูงมาก ซึ่งหากไม่มีการปล่อยน้ำไปผลักดันจะส่งผลต่อระบบการผลิตน้ำประปาทั้งระบบ ทำให้น้ำบริโภคกลายเป็นน้ำกร่อย ซึ่งไม่เหมาะแก่การบริโภคของเด็กและผู้ป่วย ตลอดจนประชาชนทั่วไป
"ขอประกาศย้ำว่า ในช่วงระหว่างวันเสาร์ อาทิตย์ และจันทร์ ที่จะถึงนี้ คือ วันที่ 18-20 กรกฎาคม ขอเกษตรกรงดการสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรโดยเด็ดขาด เพราะต้องใช้น้ำปริมาณมากพอในการผลักดันน้ำทะเลไม่ให้ทะลักเข้าสู่ระบบประปาได้ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องการวินัยและการปฏิบัติตามคำประกาศอย่างเคร่งครัด"พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ข้าราชการปกครองท้องถิ่น ท้องที่ และหน่วยทหารจะเดินเท้าเข้าสำรวจพื้นที่การเกษตร เพื่อควบคุมให้ทุกอย่างเป็นตามระบบที่วางไว้ รวมทั้งจะตรวจสอบประเมินพื้นที่การเพาะปลูกไปพร้อมกัน เพื่อเตรียมส่งน้ำไปช่วยเหลือเป็นจุดๆที่พืชผลยังมีโอกาสเก็บเกี่ยวได้ทัน ขณะที่พื้นที่เกษตรที่แน่ชัดว่าจะเกิดความเสียหาย รัฐบาลจะมีแผนช่วยเหลือเยียวยาอย่างเหมาะสม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป โดยมาตรการพิเศษเพิ่มเติมเหล่านี้จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด