เนื่องจากขณะนี้ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 3 ใน 5 ไม่ทำงาน ได้แก่ การส่งออก การลงทุนภาคเอกชน และการบริโภคภาคเอกชน และถึงแม้เศรษฐกิจข้างหน้าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่การดีขึ้นดังกล่าวจะอยู่ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและเชื่องช้า โดยปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ การท่องเที่ยวจากต่างประเทศและการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ โดยนักเศรษฐศาสตร์มองเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย
โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ค่าดัชนีอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ค่อนข้างมาก ได้แก่ การส่งออกสินค้า(4.03), การลงทุนภาคเอกชน(9.02) และการบริโภคภาคเอกชน(13.11) ขณะที่ปัจจัยด้านการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐยังคงขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่ เห็นได้จากค่าดัชนีอยู่ในระดับ 47.58 ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่าระดับ 50 เช่นกัน ส่วนการท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นปัจจัยเดียวที่ทำงานได้ดีโดยมีค่าดัชนีเท่ากับ 70.97 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนและเป็นระดับสูงที่สุดนับจากเดือน ม.ค.57
ส่วนค่าดัชนีความเชื่อมั่นในระยะ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 59.51 เพิ่มขึ้นจาก 58.41 การสำรวจครั้งที่ผ่านมา แต่ค่าดัชนีความเชื่อมั่นในระยะ 6 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 71.01 ลดลงอย่างต่อเนื่องนับจากเดือน ก.ค.57 แต่การที่ค่าดัชนียังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 สะท้อนให้เห็นว่านักเศรษฐศาสตร์ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะยังคงปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่อยู่ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและเชื่องช้า
ขณะที่ความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ในประเด็นวัฏจักรเศรษฐกิจว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงใดของวัฏจักร พบว่า ส่วนใหญ่ 65.1% เห็นว่าอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย(Recession) รองลงมา 14.3% เห็นว่าอยู่ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery) และ 3.2% เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงตกต่ำ(Trough) โดยไม่มีนักเศรษฐศาสตร์คนใดเลยที่เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงรุ่งเรือง(Peak) เมื่อแบ่งวัฏจักรออกเป็น 2 ฟาก คือ ฟากเศรษฐกิจขยายตัวจนถึงจุดสูงสุด(14.3%) และฟากเศรษฐกิจถดถอยจนถึงจุดต่ำสุด(68.3%) เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้าในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาพบว่า เศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในภาวะถดถอยหรือชะลอตัว
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ(กรุงเทพโพลล์) ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 27 แห่ง จำนวน 63 คน เรื่อง "ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า" ระหว่างวันที่ 3-14 กรกฎาคมที่ผ่านมา