เงินบาทเปิด 34.83/85 แกว่งแคบ รอปัจจัยชัดเจนจากเฟดที่เริ่มประชุมวันนี้

เงินบาทวันนี้ยังมีโอกาสเคลื่อนไหวในทิศทางที่อ่อนค่า เนื่องจากยังมีภาพที่ค่อยไม่ดีจากการส่งออกของไทย ซึ่งล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ประกาศว่าการส่งออกในเดือนมิ.ย.58 ยังติดลบ 7.87% ส่วนปัจจัยต่างประเทศนั้นตลาดหุ้นจีนร่วงหนักสุด และมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชีย

นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 ก.ค.นี้ โดยเฉพาะความชัดเจนเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.80-34.90 บาท/ดอลลาร์

• ปัจจัยสำคัญ

• เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123.00 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 123.33 เยน/ดอลลาร์
• ส่วนเงินยูโร เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1090 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1075 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.848 บาท/ดอลลาร์
• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิด รายได้ (เอ็นพีแอล) ของระบบสถาบันการเงิน ล่าสุด ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2558 หรือสิ้นไตรมาส 2 ปีนี้ พบว่า ในระบบมียอดคงค้างเอ็นพีแอลแตะ 3.12 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.38% ของสินเชื่อรวม ปริมาณและการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งช่วงเดียวกันปีก่อนและไตรมาสก่อน 2.74 หมื่นล้านบาท เติบโตเกือบ 10% และ 1.31 หมื่นล้านบาท เติบโต 4.40% ตามลำดับ แบงก์ขนาดใหญ่เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นอันดับต้นๆ ธนาคารกรุงเทพนำลิ่วเพิ่มขึ้นมากที่สุด 7.44 พันล้านบาท ขณะที่ธนชาตมีปริมาณเอ็นพีแอลลดลงมากที่สุดในระบบ 1.64 พันล้านบาท
• นายกฤษฎา จีนะวิจารณา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ต.ค. 2557-มิ.ย. 2558) ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1.63 ล้านล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.21 หมื่นล้านบาท หรือ 5.3% เนื่องจากการจัดเก็บภาษีน้ำมันและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และการนำส่งสภาพคล่องส่วนเกินของกองทุนหมุนเวียนและการนำส่งรายได้จากการประมูลคลื่นความถี่ 3จี ความถี่ 2.1 GHz
• บีโอไอเผยกิจการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกิจการสนับสนุนการท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์ใหม่นักลงทุนสนใจแห่ยื่นลงทุนเพียบ โดยเฉพาะกิจการสวนน้ำ ล่าสุดอนุมัติแล้ว 7 รายลงทุน 6,181 ล้านบาท หวังกระตุ้นท่องเที่ยวไทยโต ผู้บริหารสวนน้ำซานโตรินีฯ ชะอำเตรียมขยายเฟส 2 เพิ่มเครื่องเล่นอีก 3 ชิ้น เปิดต้นปีหน้าพร้อมจ่อหาที่ตั้งสวนน้ำแห่งใหม่ โดยรอดูทิศทาง ศก.ก่อน
• นักวิเคราะห์ระบุดัชนีจะยังคงปรับฐานต่อโดยไร้ ปัจจัยบวกเข้ามาหนุน สัปดาห์นี้รอลุ้นการปรับคณะรัฐมนตรี สร้างความเชื่อมั่น ควบคู่การผลักดันการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ให้เป็นรูปธรรม เพื่อให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบทันไตรมาส 1 ปี 2559 ขณะที่ท่าที FED ต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายกดดันบรรยากาศตลาดทุน-ตลาดทอง
• ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์จากความวิตกว่าตลาดหุ้นจีนที่ไร้เสถียรภาพอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป
• ขณะเดียวกันสกุลเงินยูโรยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของเยอรมนีที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์ โดยสถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 108.0 จาก 107.5 ในเดือนมิ.ย. ข้อมูลล่าสุดของ Ifo บ่งชี้ถึงแนวโน้มการขยายตัวที่สดใสในช่วงปีนี้ของเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป
• โฆษกคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์จีน(CSRC) กล่าวว่า รัฐบาลจะเพิ่มการซื้อหุ้นเพื่อกระตุ้นตลาด หลังตลาดหุ้นจีนทรุดตัวอย่างหนักเมื่อวานนี้ โดย China Securities Finance Corp ซึ่งเป็นบริษัทที่ CSRC เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ยังคงอยู่ในตลาด และจะเพิ่มการถือครองหุ้นในเวลาที่เหมาะสม และจะมีบทบาทในการสร้างเสถียรภาพในตลาด
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า อิหร่านอาจจะผลิตและส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 75 เซนต์ ปิดที่ 47.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
• คืนนี้สหรัฐจะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ค. เป็นต้น