นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 35.12/14 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.08 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวตามแรงซื้อแรงขายในประเทศ และรอผลการประชุม กนง.วันพรุ่งนี้ จึงคาดว่าระหว่างจนกว่าผลประชุมจะออกเงินบาทก็คงแกว่งแคบๆในกรอบต่อไป" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้จะอยู่ในกรอบระหว่าง 35.05-35.30 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 124.05/07 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 124.16 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0947/0949 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0968 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.0420 บาท/ดอลลาร์
- แบงก์ชาติเผยเงินบาทหลุด 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐผลตลาดการเงินโลกเป็นสำคัญ ห่วงการอ่อนค่าเงินบาทรวดเร็วอาจกระทบต่อเสถียรภาพการเงินไทย พร้อมเข้าดูแลไม่ให้เงินบาทผันผวนสูงเกินไป ล่าสุดตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันเงินบาทอ่อนค่า 6.7% น้อยกว่าริงกิตและรูเปียห์อ่อนค่า 8.4% และ8.0% ตามลำดับ ส่วนความผันผวนขยับขึ้นเป็น 5.8% จากสิ้นเดือน ก.ค.อยู่ที่ 4.3%
- ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ ปรับยอดส่งออกไทยลงอีกเป็นติดลบ 4.2% จากเดิมคาดติดลบ 2% ชี้เหตุจากเศรษฐกิจคู่ค้าของไทยหดเกือบหมดยกเว้นสหรัฐ ชี้เงินบาทอ่อนไม่ส่งผลบวกมากนัก เพราะเพื่อนบ้านก็ค่าเงินอ่อนลงเช่นกัน
- นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายการบริหารหนี้สาธารณะ ได้เห็นชอบการปรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2558 ครั้งที่ 3 และแผนการบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2559 เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายใน 2 สัปดาห์นี้
- กสทช.เดินหน้า 4จี เปิดฟังความเห็นใน กทม.รอบสุดท้าย ก่อนส่งเข้าบอร์ด กทค. กำหนดกรอบคลื่น 1800 ประมูล 11 พ.ย.ตายตัว ส่วน 900 ต้องรอลุ้น เผยนายกรัฐมนตรีกำชับเน้นประโยชน์ประชาชน วางเงื่อนไขคิดค่าบริการอย่างเป็นธรรม เปิดทางให้คนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึง
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเงินเยนเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนคาดหวังว่าข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งในสัปดาห์นี้จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะเพิ่มขึ้นอีกในเดือนก.ค. หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่นายอับดุลลาห์ อัล-บาดรี เลขาธิการกลุ่มโอเปกยืนยันว่า โอเปกจะไม่ลดกำลังการผลิต แม้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นก็ตาม โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 2.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ค.ในวันศุกร์นี้
- สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตของสหรัฐชะลอตัวในเดือนก.ค. ผลการสำรวจของ ISM พบว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต อยู่ที่ระดับ 52.7 ในเดือนก.ค. ลดลงจากระดับ 53.5 ในเดือนมิ.ย.
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนมิ.ย. โดยเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 4 เดือน และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลงในช่วงท้ายไตรมาส 2
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ระดับ 1,089.40 ดอลลาร์/ออนซ์