นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.01 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.12/14 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้เงินบาททำ High ตอนเปิด Low ตอนปิด...วันนี้ตลาดค่อนข้างเบาบางมากเลย เข้าใจว่า Dollars Demand น้อยลงไป บาทก็เลยแข็งค่าขึ้นมาได้" นักบริหารเงิน กล่าว
ทั้งนี้ มองว่ากว่าผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะออกมาคาดว่าเงินบาทยังจะแกว่งแคบๆ แต่แนวโน้มค่อนข้างจะไปปรับตัวแข็งค่าลงมามากกว่า เพราะ Dollars Demand หมดไปแล้ว
นักบริหารเงิน ประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้จะอยู่ในกรอบระหว่าง 34.75-35.25 บาท/ดอลลาร์
"แต่เนื่องจากพรุ่งนี้มีอีเว้นท์ ถ้าพรุ่งนี้ กนง.มีเซอร์ไพร์ส อาจจะเด้งขึ้นมาที่ 35.25 แต่คาดว่าไม่น่าจะเซอร์ไพร์ส ไม่น่าจะมีการลดดอกเบี้ย"นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123.96 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 124.05/07 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0978 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.0947/0949 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,432.16 จุด ลดลง 9.88 จุด, -0.69% มูลค่าการซื้อขาย 36,344.58 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,057.08 ลบ.(SET+MAI)
- นักเศรษฐศาสตร์และสถาบันเศรษฐกิจเสียงส่วนใหญ่ประเมินการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) รอบที่ 5 ของปี 58 ในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ คาดว่าจะมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% เพื่อรอดูพัฒนาการเศรษฐกิจไทยในช่วงต่อไปก่อนและน่าจะเก็บกระสุนไว้ใช้ยามจำเป็น เพราะมองว่าการปรับลดดอกเบี้ยตอนนี้อาจไม่เกิดประโยชน์ ขณะที่ฝ่ายเก็ง"ลด"ดอกเบี้ยเห็นว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร
- นายอนุสรณ์ ธรรมใจ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะอดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารประเทศไทย (ธปท.) เสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันพรุ่งนี้นำประเด็นภาวะเศรษฐกิจซบเซาและอัตราเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่เจ็ดมาเป็นประเด็นหลักในการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เหมาะสมมากกว่าที่จะวิตกกังวลเรื่องเงินบาทอ่อนค่าหรือเกรงว่าจะมีการก่อหนี้เกินตัวหรือความร้อนแรงของภาวะฟองสบู่
- ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้แสดงความกังวลถึงสถานการณ์ส่งออกในเดือนมิถุนายนที่หดตัวถึง7.9% ซึ่งหดตัวมากขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ทำให้ช่วงครึ่งปีแรก มูลค่าส่งออกหดตัวไปถึง 4.8% ทำให้มีโอกาสที่การส่งออกทั้งปีจะหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่สามติดต่อกัน แม้ในขณะนี้ได้รับปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนลงก็ตาม
- พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้นัดประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ เพื่อพิจารณาทบทวนเป้าหมายการส่งออกของไทยในปี 58 ใหม่ เบื้องต้นประเมินว่า อัตราการขยายตัวในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 0% หรือไม่เติบโตจากปีก่อน ที่มีมูลค่าประมาณ 227,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 7.3 ล้านล้านบาท จากเดิมที่คาดจะขยายตัว 1.2% จากปีก่อน
- พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 ด้าน
- นางโอลกา เกโรวาซิลิ โฆษกรัฐบาลกรีซ เปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปเกี่ยวกับข้อตกลงให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับทางเจ้าหนี้ได้ภายในวันที่ 18 ส.ค.
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนมิ.ย. โดยเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 4 เดือน และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลงในช่วงท้ายไตรมาส 2