คมนาคม เตรียมชง ครม.ปรับรูปแบบลงทุนเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 4, 2015 18:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)ขอเปลี่ยนแปลงมติครม.เดิมเมื่อปี 2553 ขอปรับรูปแบบลงทุนเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ที่ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.).ดำเนินการโดยใช้รูปแบบ PPP -Gross Cost (จ้างเอกชนเดินรถและซ่อมบำรุง) มาเป็น PPP-Net Cost (สัมปทาน) ซึ่งจะทำให้ต้องปฎิบัติตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ พ.ศ.2556 โดยได้มอบหมายให้รฟม. เร่งทำแผนและตารางเวลาเปรียบเทียบระหว่างการใช้ รูปแบบ PPP -Gross Cost ซึ่งจะต้องเปิดประกวดราคา ตามพ.ร.บ. ร่วมทุนฯ 2535 กับ รูปแบบ PPP-Net Cost ซึ่งจะต้องปฎิบัติตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ พ.ศ.2556 และใช้วิธีเจรจาตรงได้ เพื่อนำมาตัดสินใจอีกครั้ง ว่า ทั้ง 2 แนวทางมีระยะเวลาในการดำเนินงานมากน้อยกว่ากันเท่าไร

เนื่องจาก ในการดำเนินงาน จะต้องพิจารณาการเปิดเดินรถให้พอดีกับการก่อสร้างงานโยธาที่จะแล้วเสร็จในปี 2562 ด้วย โดยให้รฟม. สรุปรายละเอียดรายงานต่อกระทรวงคมนาคมในวันที่ 6 ส.ค.นี้

“ขั้นตอนของพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2535 ถือว่าจบแล้วเมื่อบอร์ดสศช.มีมติไม่เห็นด้วยกับการเจรจาตรง แต่หากรฟม.จะใช้ รูปแบบ PPP-Net Cost จะต้องเสนอครม.ขอยกเลิกมติเดิม เท่ากับเปลี่ยนไปใช้พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 ซึ่งจะเป็นโครงการแรก โดยตามขั้นตอนพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 56 จะต้องตั้งคณะกรรมการมาตรา 35 ขึ้นมาพิจารณา และเสนอเรื่องไปที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในฐานะเลขาฯ คณะกรรมการ PPP พร้อมกันนี้จะมีการสอบถามความเห็นไปยังสำนักงบ กระทรวงการคลังและสศช.เหมือนเดิม โดยรวบรวมความเห็นกลับมาที่สคร. และส่งกลับมาที่กระทรวงคมนาคมเพื่อให้คณะกรรมการมาตรา 35 ดำเนินงานต่อ และเมื่อได้ดำเนินการคัดเลือกแล้วเสร็จจะต้องเสนอครม.เห็นชอบเพื่อลงนาม ซึ่งเป็ฯขั้นตอนที่แตกต่างจากพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2535 “นางสร้อยทิพย์กล่าว

ด้านนายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ตามหลักการหากสามารถเจรจาตรงกับ BMCL จะใช้เวลาสั้นกว่าการเปิดประกวดราคาใหม่อย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง รฟม.กำลังเร่งทำตารางเวลาเปรียบเทียบ อย่างไรก็ตาม แนวทางการเจรจากับ BMCL นั้น และรูปแบบ PPP-Net Cost จะเกิดประโยชน์มากกว่า นอกจากรวดเร็วแล้ว รัฐยังไม่ต้องรับความเสี่ยง ขณะที่เอกชนจะมีความเป็นไปได้ในการลงทุนเพราะเป็นการเดินรถต่อเนื่อง ซึ่งผู้โดยสารจะเกิดความสะดวก และทำให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นตลอดสาย จะมีโอกาสในการทำรายได้ที่คุ้มทุนมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ