พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดเข้าไปดูแลประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม เพื่อลดความเดือดร้อน พร้อมทั้งสำรวจปริมาณและราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ป้องกันไม่ให้เกิดการกักตุนสินค้า หรือฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาขายสินค้า โดยเบื้องต้นหากสินค้าขาดแคลนจะเร่งเชื่อมโยงสินค้าในแหล่งผลิตมาจัดจำหน่าย รวมถึงนำโครงการธงฟ้าราคาประหยัดลงในพื้นที่ได้รับความเสียหายด้วย
"ตอนนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจสถานการณ์สินค้าว่ามีปริมาณเพียงพอ หรือขาดแคลนหรือไม่ หากขายสินค้าเกินราคา จะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการทันที ส่วนโครงการธงฟ้าเบื้องต้นจะนำร่องดำเนินการใน 5 จังหวัดก่อน คือ แม่ฮ่องสอน, ตาก,ลำปาง, บึงกาฬ และนครพนม" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
สำหรับพื้นที่ประสบภัย 5 จังหวัด ประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน, ตาก, ลำปาง, บึงกาฬ, นครพนม และพื้นที่เตือนภัยอีก 23 จังหวัด ในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันออก เช่น เชียงใหม่, ลำพูน, เชียงราย, เลย, มุกดาหาร, หนองคาย, อุดรธานี, จันทบุรี, ตราด, ระยอง เป็นต้น
รมว.พาณิชยื กล่าวว่า นอกจากนี้ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าภายในตรวจสอบราคาสินค้าอาหาร โดยเฉพาะอาหารปรุงสำเร็จ หรืออาหารจานด่วน เพื่อไม่ให้ร้านค้าฉวยโอกาสขึ้นราคา หลังจากคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้ปรับลดราคาขายปลีกแก๊สหุงต้ม(แอลพีจี) ลงกิโลกรัม(กก.) ละ 1 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีกปัจจุบันอยู่ที่ กก.ละ 22.96 บาท จากเดิม กก.ละ 23.96 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.58 เป็นต้นไป เพราะที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนว่าร้านอาหารจานด่วนบางรายปรับขึ้นราคา