(เพิ่มเติม) กนง.มติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยมองศก.ไทยฟื้นตัวช้าๆแต่ความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 5, 2015 15:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมวันที่ 5 ส.ค. 58 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.50% เนื่องจากประเมินว่าการดำเนินนโยบายการงินในช่วงที่ผ่านมาได้ช่วยผ่อนคลายภาวะการเงินเพิ่มเติม ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในทิศทางที่เอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ และเห็นว่านโยบายการเงินยังควรอยู่ในระดับผ่อนปรนอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง โดยพร้อมจะใช้เครื่องมือเชิงนโยบายที่มีอยู่อย่างเหมาะสมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว

นายเมธี สุภาพงษ์ เลขานุการ กนง.ระบุว่า กนง.มองว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/58 และแนวโน้มทั้งปีนี้ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ แต่มีความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และปัญหาภัยแล้ง โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวสูงกว่าคาด และการเบิจ่ายงบลงทุนภาครัฐที่ทำได้ดีต่อเนื่อง ขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวได้อย่างช้าๆ แต่การส่งออกสินค้าหดตัวมากกว่าคาด ซึ่งเป็นผลจากทั้งราคาที่อยู่ในระดับต่ำและปริมาณที่ลดลงตามอุปสงค์จากประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะจีนและเอเชีย

ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่องจากต้นทุนด้านพลังงานเป็นหลัก แต่ได้ผ่านจุดต่ำสุดและจะค่อยๆ ปรับสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี จากผลของฐานราคาน้ำมันสูงที่จะทะยอยหมดไป อย่างไรก็ดี แรงกดดันด้านอุปสงค์ที่ยังมีจำกัด และราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นช้ากว่าประมาณการเดิม อาจทำให้ช่วงเวลาที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับเป็นบวกเลื่อนออกไปจากที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อนเล็กน้อย ซึ่งคณะกรรมการฯ จะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

นายเมธี กล่าวว่า การตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ เหตุเพราะ กนง.ได้ปรับลดประมาณการกาตัวเลขทางเศรษฐกิจในปีนี้ลง โดยจะมีการเปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการในรายงานครั้งต่อไปเดือน ก.ย.โดยยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังมีความเสี่ยงจากเรื่องการส่งออก ภาวะเศรษฐกิจโลก การใช้จ่ายในประเทศ รวมทั้งปัญหาภัยแล้งที่ยังคงมีอยู่

ส่วนอัตราเงินเฟ้อนั้น มองว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น โดยจะกลับมาเป็นบวกได้ในปลายไตรมาส 4/58 ส่งผลให้ทั้งปีอัตราเงินเฟ้อยังคงติดลบ แต่น้อยลงจากต้นปี ทั้งนี้ ธปท.จะไม่มีการปรับประมาณการเงินเฟ้อเพื่อไม่ให้กระทบกับการคาดการณ์ของตลาด

นายเมธี กล่าวว่ากรณีเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงนี้ โดยยอมรับว่าบาทอ่อนค่าเร็วและมองเป็นทิศทางต่อเนื่อง แม้ว่าจะอ่อนค่าไปเร็วบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการส่งออก ซึ่ง ธปท.ได้ศึกษามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากเครื่องมือนโยบายการเงินในหลายตัว นอกเหนือจากนโยบายอัตราดอกเบี้ยและนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน โดยเป็นการศึกษาไว้ แต่ยังไม่ตัดสินใจจะดำเนินการในตอนนี้

ส่วนกรณีคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเดือนก.ย.นั้น นายเมธี มองว่า ระยะเวลาอาจจะยังไม่ชัดเจนนัก แต่ก็คงจะปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่เกินภายในปีนี้แน่นอน และผลการขึ้นดอกเบี้ยอาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินของไทยได้ แต่เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะสามารถบริหารจัดการได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ