นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.63 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับเดียวกับช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ แต่ยังคงมีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่อง และต้องจับตาดูว่าทางการจะเข้ามาแทรกแซงค่าเงินบาทเพื่อรักษาเสถียรภาพหรือไม่ เนื่องจากปรับตัวอ่อนค่าเร็วกว่าภูมิภาค
"เปิดเช้านี้ทรงตัวใกล้เคียงกับช่วงเย็นวานนี้ แต่มีทิศทางอ่อนค่า" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 35.60-35.70 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.6900 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(20 ส.ค.) อยู่ที่ 1.69589% ส่วน THAI BAHT FIX 6M(20 ส.ค.) อยู่ที่ 1.56881%
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123.20 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 123.95 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1253 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1160 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.5580 บาท/ดอลลาร์
- นายเมอร์วิน ถัง รองผู้อำนวยการฝ่ายเครดิตประเทศและตราสารหนี้ที่ออกโดยองค์กรระหว่างประเทศ บริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ เปิดเผยว่า ฟิทช์ไม่มีแผนที่จะทบทวนอันดับเครดิตของไทย ภายหลังเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ ซึ่งฟิทช์ได้สรุปรายงานอันดับเครดิตของไทยในปีนี้ไปแล้ว เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา และยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบทั้งในเชิงเสถียรภาพทางการเมือง รวมถึงอันดับเครดิตของไทยในเวลานี้ เนื่องจากการสืบสวนสอบสวนเหตุระเบิดดังกล่าวยังไม่มีการความชัดเจน
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานมูลค่าการใช้บัตรพลาสติกเพื่อการชำระเงินทั้งระบบ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.หรือไตรมาส 2 ปีนี้ เทียบกับช่วงไตรมาสแรก พบว่าการ ชำระเงินผ่านบัตรทุกประเภทมีมูลค่าลดลงค่อนข้างมาก โดยมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรพลาสติกรวมทั้งระบบลดลง 9 หมื่นล้านบาท หรือ 7.1% จาก 1.27 ล้านล้านบาท ในสิ้นไตรมาสแรก เหลือ 1.18 ล้านล้านบาท
- ธปท.เผยเอ็นพีแอลในระบบเพิ่มขึ้น 1.33 หมื่นล้านบาท เฉพาะกลุ่มธุรกิจค้าปลีก-ส่งมียอดเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 5.38 พันล้านบาท ตามมาด้วยธุรกิจผลิตและอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล พบลูกหนี้รายใหม่ก่อตัวในธุรกิจบริการมากสุด เช่นเดียวกับลูกหนี้รีเอ็นทรีพบมากธุรกิจการผลิต พร้อมกันนี้ภาคธุรกิจโดยรวมมียอดปรับโครงสร้างหนี้ 6.2 พันล้านบาท เฉพาะธุรกิจอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลเลือกใช้วิธีนี้ถึง 3.75 พันล้านบาท รวมถึงยังใช้วิธีอื่นๆ หวังให้หนี้ลดลงเพิ่ม
- กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดรับสมาชิกวันแรกแห่สมัครพุ่ง 1.7 แสนคน ธ.ก.ส.ยอดนำลิ่ว 1.4 แสนคน คาดสิ้นปียอดแตะ 8 แสนราย ด้านออมสินตั้งเป้าสิ้นปี 5 แสนราย ด้านเลขาฯ กอช.มั่นใจปั้นยอดถึง 3 ล้านคนในปี 2561 ตั้งเป้าหมายคนเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่า 35 ล้านคน
- เอกชน ชี้ ดรีมทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ไม่ต่างจากชุดเดิม แต่ก็สร้างความหวังของประชาชน ช่วยฟื้นเศรษฐกิจ ให้กำลังใจ ไม่ใช่เรื่องง่าย ฝากหวัง ประคับประคองให้ดีขึ้น เร่ง อัดเงินลงรากหญ้าบรรเทาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ยอมรับผลกระทบระเบิดที่ราชประสงค์ สร้างความไม่มั่นใจกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ภาคเอกชนหวังทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ ครม.ตู่ 3 เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนได้ ชี้“สมคิด"รู้ปัญหาดีเอสเอ็มอีได้รับการแก้ไขเรื่องสภาพคล่อง หอการค้า วอน เร่งหาแนวทางรับมือสงครามค่าเงิน ตั้งทีมแก้ข้อกล่าวหาต่างชาติที่ใช้เป็นข้ออ้างกีดกันการค้า มั่นใจทำงานเป็นทีมมากขึ้น
- นายเซธ ไคลน์แมน นักวิเคราะห์ของธนาคารซิตี้กรุ๊ป ให้ความเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันในปีนี้จะปรับลดลงไปถึงระดับที่ 32.40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี เป็นผลมาจากกำลังการผลิตน้ำมันที่สูงมาก หากผู้ผลิตน้ำมันไม่ลดกำลังการผลิตลง ราคาน้ำมันอาจลดลงไปได้เรื่อยๆ จนต่ำกว่าต้นทุนการผลิต
- นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า ถึงแม้ค่าเงินริงกิตได้ทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อเทียบดอลลาร์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่รัฐบาลจะยังไม่ใช้มาตรการควบคุมเงินทุน หรือใช้การผูกติดค่าเงินริงกิตกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศยังคงมีความแข็งแกร่ง
- สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) หรือเกาหลีเหนือ มีคำสั่งให้รวบรวมกำลังแนวรบด้านหน้าเพื่อเตรียมเข้าสู่ภาวะสงคราม นับตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น (15.30 น. ของวันนี้ ตามเวลาไทย)
- บรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ได้เรียกร้องให้กรีซยึดมั่นตามข้อตกลงที่ให้ไว้เพื่อขอรับเงินช่วยเหลืองวดที่ 3 หลังนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งอย่างกะทันหัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันก่อน นอกจากนี้สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ ปิดที่ 41.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 54 เซนต์ ปิดที่ 46.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือน ก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.พุ่งขึ้น 25.3 ดอลลาร์ หรือ 2.24% ปิดที่ระดับ 1,153.20 ดอลลาร์/ออนซ์
- สกุลเงินดอลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือน ก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 123.48 เยน จากระดับของวันพุธที่ 123.86 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9619 ฟรังค์ จากระดับ 0.9655 ฟรังค์, ยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1193 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.1113 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.5672 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5681 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะ 0.7337 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7356 ดอลลาร์สหรัฐ