นายกฯ ยันพร้อมวางรากฐานกติกาลงทุน มั่นใจไม่สะดุดหากเปลี่ยนรบ.ใหม่หลังเลือกตั้ง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 21, 2015 18:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวในงาน “นายกรัฐมนตรีพบนักธุรกิจญี่ปุ่น"ว่า หลังจากมีการปรับคณะรัฐมนตรีจะเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจให้เร็วขึ้น เพราะการทำงานที่ผ่านมาเป็นการรื้อปัญหาเก่าทั้งหมด หลังจากนี้เมื่อครม.ใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ ซึ่งไม่น่าจะเกินสัปดาห์หน้า รัฐมนตรีทุกคนจะเข้ามาทำงานเพื่อเดินหน้าประเทศในระยะที่ 3 โดยเน้นการขับเคลื่อนเป็นหลัก ทั้งด้านการต่างประเทศ การสร้างความเข้มแข็ง และเน้นความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน

ขณะนี้รัฐบาลเข้าสู่โรดแมพระยะที่ 3 แล้ว ซึ่งถือเป็นการเตรียมการเข้าสู่การเลือกตั้งต่อไป โดยมองว่าการลงทุนในช่วงนี้ ระหว่างปี 58-59 เป็นการลงทุนที่ดีที่สุด โดยรัฐบาลจะวางรากฐานและกำหนดกติกาเอาไว้ เพื่อให้ความมั่นใจว่า แม้รัฐบาลใหม่เข้ามาก็สามารถสานงานต่อได้ทันที

นายกฯ กล่าวว่า ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาได้ดำเนินงานเร่งรัดมูลค่าการการลงทุนไปแล้วกว่า 6.9 แสนล้านบาท และได้มีการวางยุทธศาสตร์ประเทศช่วงปี 58-64 พร้อมทั้งเน้นการดำเนินนโยบายโดยการที่รัฐบาลจะเป็นผู้อำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนทางการค้าและให้ภาคเอกชนเป้นผู้ขับเคลื่อน เดินหน้า

พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้ฝากนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามามีส่วนช่วยในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ โดยเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการวิจัยและนวัตกรรม

"อยากเห็นการลงทุนที่มีการเพิ่มมูลค่า มีความทันสมัยมากขึ้น พร้อมทั้งอยากให้ญี่ปุ่น มาสร้างศูนย์วิจัยพัฒนาในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ ยางพารา รถไฟฟ้า แปรรูปเกษตร หรืออุตสาหกรรมการบิน ซึ่งรัฐบาลพร้อมจะอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ"

นอกจากนี้ รัฐบาลอยากให้ญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ มาร่วมพัฒนาโครงการรถไฟควาเมร็วสูง ในเส้นกรุงเทพ-เชียงใหม่ รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งมองว่า จะมีการช่วยต่อยอดในการผลิตสินค้าใหม่ได้ๆ ซึ่งหลังจากนี้ ครม.ชุดใหม่จะเดินหน้าต่อในเรื่องนี้ ส่วนปี 59 รัฐบาลจะเน้นการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ การพัฒนาทางรถไฟ ทางอากาศ รวมถึงเดินหน้าจัดตั้ง HQ ซึ่งรัฐบาลพร้อมดูแลสิทธิประโยชน์ให้นักลงทุนทุกประเทศ

นายกฯ ยังได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียจากเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ พร้อมให้ความเชื่อมั่นว่าจะจับกุมคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้ และไม่อยากให้นักลงทุนเกิดความตกใจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ