รมว.พลังงานขอ 3 เดือนชัดเจนโรงไฟฟ้ากระบี่-สัมปทานปิโตรเลียม,หนุนขึ้น NGV

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 24, 2015 15:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน ระบุ ขอเวลา 3 เดือนจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการด้านพลังงานที่สำคัญทั้งในส่วนของการก่อสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ และการเปิดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 21 โดยต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนเพื่อมาประกอบการพิจารณา หลังหลายฝ่ายยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แต่ยืนยันนโยบายหลักจะต้องดำเนินการจัดหาพลังงานเพื่อให้ประเทศมีพลังงานใช้อย่างเพียงพอและยั่งยืน

ส่วนการปรับราคาเชื้อเพลิงเพื่อให้มีความเหมาะสมนั้น เห็นว่าในส่วนของราคา NGV ก็พร้อมจะมีการปรับขึ้นหากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เห็นชอบในเดือนก.ย. ส่วนการขึ้นภาษีสรรพสามิตสำหรับ LPG ภาคขนส่ง ต้องมีความเป็นธรรมบนพื้นฐานที่ราคาไม่แพงเกินไป

"อยากได้ข้อมูลเร่งด่วนในการทำงาน เพราะตอนนี้มีทั้งที่บอกว่าพลังงานไม่เพียงพอ จะมีวิกฤตในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราก็ต้องมาดูทั้งเรื่องกระบี่ สัมปทานรอบที่ 21 ถ้าเร่งด่วนมากจำเป็นมากก็ต้องเดินหน้า และต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ถ้าไม่เร่งด่วน ก็ต้องขอเวลาเพื่อทำความเข้าใจ ถ้าได้ข้อมูลก็คงจะรู้มากขึ้น เพราะบางคนก็บอกว่าพลังงานไม่ขาดแคลน ก็จะพยายามพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่าขาดแคลนจริงหรือไม่ 3 เดือนก็คงจะตกลงใจได้ว่าจะเดินหน้าอย่างไร ปีนี้ก็คงรู้"พลเอกอนันตพร กล่าวแถลงข่าว

รมว.พลังงาน กล่าวว่า สำหรับในส่วนของโรงไฟฟ้ากระบี่ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการไตรภาคี เพื่อพิจารณาร่วมกัน โดยล่าสุดปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงพลังงานเพื่อคัดเลือกตัวแทนจากภาครัฐเข้าร่วมคณะกรรมการดังกล่าว ขณะที่การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 กับกฎหมายภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 นั้นขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.)

ส่วนการปรับราคาเชื้อเพลิงเพื่อให้มีความเหมาะสมนั้น กระทรวงพลังงานก็จะเดินหน้าการปรับราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV) จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 13 บาท/กิโลกรัม เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันต้นทุนผลิตปรับลดลงมาใกล้เคียงกับราคาขายในปัจจุบันแล้ว ซึ่งหากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)ที่จะประชุมในเดือนก.ย.นี้เห็นชอบ ก็จะดำเนินการต่อไปตามมติ

ขณะที่การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) สำหรับภาคขนส่ง จากปัจจุบันที่มีการจัดเก็บในอัตราที่ต่ำมากนั้น เห็นว่าในหลักการก็ต้องพิจารณาความเป็นธรรมเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงประเภทอื่นด้วย แต่ก็ยังต้องพิจารณาถึงผู้ใช้ที่มีความจำเป็นด้วยว่าราคาสุดท้ายจะต้องไม่แพงมากเกินไป ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งยังคงมีระยะเวลาในการพิจารณาอยู่

สำหรับความคืบหน้าในการพิจารณาเกี่ยวกับการประมูลโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) รอบที่ 3 ที่ล่าสุดกลุ่มกัลฟ์ เป็นผู้ชนะการประมูลรายเดียว กำลังการผลิตรวม 5 พันเมกะวัตต์ ซึ่งล่าสุดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA) เรียบร้อยแล้วนั้น พลเอกอนันตพร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการพิจารณาตั้งแต่ที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.) และได้ส่งเรื่องให้กระทรวงพลังงานพิจารณาสานต่อ ซึ่งภายหลังที่ได้เข้ามารับตำแหน่งรมว.พลังงานในครั้งนี้ ก็คงจะได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ขณะนี้

ส่วนนโยบายใหม่ๆที่เห็นว่ากระทรวงพลังงานจะเดินหน้าต่อไปนั้น คือการสร้างความชัดเจนและนำเสนอข้อมูลให้มีความน่าเชื่อถือกับสังคม

"นโยบายใหม่ๆคืออยากให้กระทรวงพลังงานพูดอะไรแล้วคนเชื่อถือ เพราะพลังงานเป็นเรื่องจำเป็น แต่ทุกคนหวาดกลัวเกินกว่าเหตุ บางครั้งหวาดกลัวเรื่องถ่านหิน หวาดกลัวเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่มันผ่านไป อยากจะเปลี่ยนโฉม ภาพลักษณ์ให้คนเชื่อถือ คนในกระทรวงก็ต้องปรับข้อมูลให้คนเชื่อถือคิดว่าพลังงานสำคัญ อุตสาหกรรม การพัฒนาประเทศ ขนส่ง ต้องใช้พลังงานทั้งนั้น ขณะเดียวกันเราก็จะทำพลังงานให้ปลอดภัย สะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม...ข้อมูลน่าเชื่อถือแต่มีความขัดแย้ง วิธีการนำเสนอข้อมูลให้น่าเชื่อถือ"รมว.พลังงาน กล่าว

แท็ก ข้อมูล   NGV  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ