(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 35.69 อ่อนค่าตามภูมิภาค รอความชัดเจนมาตรการกระตุ้นศก.รัฐบาล

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 28, 2015 11:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.69 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.63/65 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาค เนื่องจากยังคงมีกระแสเงินทุนต่างประเทศไหลออก
"เงินบาทอ่อนค่าจากช่วงเย็นวานนี้เนื่องจาก flow ในตลาดทุนยังไหลออกต่อเนื่อง" นักบริหารเงิน กล่าว

ปัจจัยภายนอกจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐเมื่อคืนนี้มีทั้งดีและไม่ดี ส่วนปัจจัยภายในมีกระแสตอบรับเชิงบวกของภาคเอกชนเกี่ยวกับความเชื่อมั่นหลังฟังคำชี้แจงจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจแล้ว ซึ่งต้องรอดูความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกตามมา

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 35.65-35.75 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.7800 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(27 ส.ค.) อยู่ที่ 1.86067% ส่วน THAI BAHT FIX 6M(27 ส.ค.) อยู่ที่ 1.79949%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 121.08 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 120.32/33 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1244 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1280/1284 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.6500 บาท/ดอลลาร์
  • กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ เผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 27 แห่ง จำนวน 59 คน เรื่อง "ประเมินผลงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ครบ 1 ปี" โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 17-25 ส.ค. 58 พบว่า ผลงานการบริหารเศรษฐกิจในภาพรวมของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาโดยให้คะแนน 5.32 คะแนน จากคะแนนเต็ม10 ลดลงจากการสำรวจครั้งก่อนที่ได้ 5.62 คะแนน แต่ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่ารัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่ได้ 4.08 คะแนน และสูงกว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ที่ได้ 5.12 คะแนน
  • นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรจะเสนอกฎหมาย เพื่อยกเว้นภาษีให้แก่บริษัทนิติบุคคลที่ประกอบกิจการทางด้านสังคม หรือ Social Business เพื่อเป็นการกระตุ้นให้บริษัทขนาดใหญ่ลงทุนเพื่อสังคมมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ กรมสรรพากรได้เสนอกฎหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาเรียบร้อยแล้ว และหาก รมว.คลังไม่มีความเห็นที่แตกต่างจากกรมสรรพากร คาดว่า ในเร็วๆนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
  • นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนกรกฎาคม 2558 มีมูลค่าการส่งออก 18,223 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 3.56 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงเดือนที่ 7 ส่วนการนำเข้าเดือนกรกฎาคม 2558 มีมูลค่า 17,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 12.73 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ไทยเกินดุลการค้าประมาณ 770 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวและภาพรวมการส่งออกยังคงติดลบ แต่คาดว่าปลายปีจะมีคำสั่งซื้อเข้ามา ทำให้ตัวเลขการส่งออกติดลบไม่ถึงร้อยละ 3 ตามที่คาดการณ์ไว้
  • มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ระบุว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ย และอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ครั้งล่าสุดของธนาคารกลางจีน (PBOC) จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบ ขณะที่ลดต้นทุนการกู้ยืมลง ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สำหรับช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ขยายตัว 3.7% โดยสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.3% การปรับตัวดีขึ้นดังกล่าวเกิดจากการที่ภาคธุรกิจเพิ่มการลงทุน และเพิ่มสต็อกสินค้า รวมทั้งการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคและของรัฐบาล

-สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ขยับขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 110.9 ในเดือนก.ค. จากระดับ 110.4 ในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ดัชนีพุ่งขึ้น 7.4% ในเดือนก.ค. โดยปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 11 ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงมีเสถียรภาพ

  • นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวว่า ภาวะผันผวนในตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมา จะสร้างความซับซ้อนให้กับการตัดสินใจของเฟดในการประชุมเดือนหน้า อย่างไรก็ดี นางจอร์จมีความเห็นว่า เฟดมีความจำเป็นต้องเริ่มต้นปรับนโยบายการเงินกลับสู่ภาวะปกติ
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 4 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ไตรมาส 2 ที่ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ โดยข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.พุ่งขึ้น 3.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 42.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ต.ค.พุ่งขึ้น 4.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ไตรมาส 2 ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 2 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ระดับ 1,122.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 37.6 เซนต์ ปิดที่ 14.417 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ต.ค.พุ่งขึ้น 25.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,006 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย.พุ่งขึ้น 38.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 568.60 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ หลังจากข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แข็งแกร่งของสหรัฐบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่ดี โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1257 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1345 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5425 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5469 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.68 เยน จาก 119.50 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9653 ฟรังก์ จาก 0.9527 ฟรังก์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7171 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7099 ดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ