(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 35.85 ติดตามผลประชุม ECB-ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 31, 2015 11:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.85 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 35.86 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยหลังจากอ่อนค่าต่อเนื่องขึ้นมาตลอดสัปดาห์ โดยเฉพาะหลังธปท.ปรับเกณฑ์การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ...ส่วนสัปดาห์นี้ติดตามการประชุม ECB กับตัวเลข Non Farm Pero" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทไว้ระหว่าง 35.75-35.95 บาท/ดอลลาร์

"คิดว่ายังไม่น่าจะเห็น 36 บาท/ดอลลาร์"นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.8900 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(28 ส.ค.) อยู่ที่ 1.84492% ส่วน THAI BAHT FIX 6M(28 ส.ค.) อยู่ที่ 1.83152%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 121.15 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 120.76 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1240 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.1291 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.8280 บาท/ดอลลาร์
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (31 ส.ค.-4 ก.ย.) ที่ 35.80-36.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามประกอบด้วยกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ สถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดการเงินของจีน รวมถึงดัชนี PMI เดือนส.ค. ของหลายๆ ประเทศ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตร การจ้างงานภาคเอกชน อัตราการว่างงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนส.ค. ยอดสั่งซื้อของโรงงาน รายจ่ายด้านการก่อสร้าง และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ค.
  • ธปท.เผยระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.50% ต่อปีในปัจจุบันคงไม่ต่ำกว่านี้ กรณีหลายประเทศเล่นสงครามค่าเงินมองดูแลเศรษฐกิจตัวเองมากกว่ากดให้เงินอ่อนค่า ชี้เมื่อไทยลงทุนโครงสร้างพื้นฐานได้จริง ทำให้เงินบาทเคลื่อนไหว 2 ทิศทาง เปิดทางนักลงทุนรายย่อยทุนหนาลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศได้ไม่ผ่านคนกลาง ประเดิมวงเงินลงทุนนอกรายละ 5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี คาดเปิดเสรีทั่วไปและขยายวงเงิน
  • การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันประจำเดือนกันยายนนี้ เตรียมปรับเป้าตัวเลขส่งออกทั้ปี 2558 ลงอีกครั้งจากเดิมติดลบ 2% เป็นติดลบ 4% และปรับลดเป็น GDP จากโต 3.5% เป็นไม่ถึง 3% หลังตัวเลขส่งออก 7 เดือน ยังลดต่อเนื่อง ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจโลกมีแต่ปัจจัยรุมเร้า ยังหวังครม.ใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายของปี
  • สศค.คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 3% หากเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ทำสำเร็จ แม้ส่งออกติดลบ 4% ส่วนผลกระทบระเบิดราชประสงค์ ทำนักท่องเที่ยวหายไม่เกิน 3 แสนราย ส่งผลกระทบต่อจีดีพีแค่ 0.05%
  • นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ ชะลอตัวลงทำให้ธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังการปล่อยกู้ โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคล นอกจากนี้ลูกค้าในกลุ่มข้าราชการก็ต้องยอมรับว่าช่วงหลังๆ นี้ มีความเสี่ยงเครดิตเพิ่มขึ้น และสถาบันการเงินเริ่มไม่ได้สิทธิพิเศษในการปล่อยกู้เหมือนในอดีตแล้ว
  • คลังห่วงเศรษฐกิจชะลอตัวมาก ชงครม.สัปดาห์นี้ ขยายเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยกองทุนหมู่บ้านเป็น 6 หมื่นล้าน จากเดิมตั้งไว้ที่ 4 หมื่นล้าน และจะเพิ่มวงเงินปล่อยกู้ให้เป็นสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท

-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (28 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่สดใส เมื่อพิจารณาจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ที่ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 2.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 2.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (28 ส.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 11.4 ดอลลาร์ หรือ 1.02% ปิดที่ 1,134 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (28 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ที่ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ