นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานขอยืนยันว่ายังไม่มีนโยบายในการเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตในเชื้อเพลิงกลุ่มก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV) ดังกล่าวอย่างแน่นอน เนื่องจาก NGV ถือเป็นเชื้อเพลิงในภาคขนส่งประเภทหนึ่งที่ยังได้รับการสนับสนุน ซึ่งได้กำหนดกรอบแผนในการสนับสนุนเพื่อให้มีสิทธิพิเศษบางประการ เช่น การกำหนดราคาขายปลีกต่ำกว่าต้นทุน การอุดหนุนราคาเป็นครั้งคราวและ/หรือการได้รับยกเว้นภาษีสรรพสามิตเช่นเดียวกับกลุ่มเชื้อเพลิงชีวภาพ ได้แก่ เอทานอลและไบโอดีเซล ซึ่งถือเป็นกลุ่มเชื้อเพลิงจากพลังงานทดแทน ทั้งนี้จะเห็นว่าแตกต่างจากการบริหารเชื้อเพลิงปกติประเภทกลุ่มน้ำมัน และก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG)ที่จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหล่านี้
นอกจากนี้ แม้ว่าในแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2558 - 2579 (Oil Plan 2015) จะได้กำหนดหลักการในการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในภาคขนส่งที่จะเน้นให้เกิดกลไกการกำหนดราคาที่สะท้อนต้นทุน และการเก็บภาษีที่เป็นธรรมไว้ให้เป็นหลักการสำคัญในการบริหารเชื้อเพลิงในภาคขนส่งของประเทศ แต่กระทรวงพลังงานยังคงกำหนดให้เชื้อเพลิงที่ได้รับสิทธิส่งเสริมพิเศษนั้น อันได้แก่ NGV ก๊าซชีวภาพอัด (CBG) เอทานอลและไบโอดีเซล ถือว่าเป็นกลุ่มพลังงานทดแทนที่จะได้รับการยกเว้นเป็นกรณีพิเศษเพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้พลังงานภายในประเทศมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้หากจะมีการพิจารณาเปลี่ยนแปลงหรือไม่จะต้องดูจากปัจจัยแวดล้อมเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญถึงจะมีการทบทวนสิทธิพิเศษดังกล่าว
"ขอให้ผู้ใช้เชื้อเพลิง NGV ในภาคขนส่งมั่นใจว่า จะไม่มีการพิจารณาเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานทางเลือกที่เป็นพลังงานสะอาดและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย"นายทวารัฐกล่าว