คลัสเตอร์ปิโตรเคมีเร่งลงทุน 2-5 หมื่นลบ.ใน 3-5 ปีหวังเพิ่มจีดีพีประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 28, 2015 11:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คลัสเตอร์ปิโตรเคมี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สนองนโยบายรัฐขยายการลงทุนไม่ต่ำกว่า 20,000-50,000 ล้านบาทในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า จากเดิมที่ลงทุนไปแล้วประมาณ 900,000 ล้านบาท เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ เพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ให้กับประเทศ

นายบวร วงศ์สินอุดม รองประธานส.อ.ท ในฐานะประธานคลัสเตอร์ปิโตรเคมี ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมด้านโรงกลั่นและปิโตรเคมี รวมทั้งธุรกิจเกี่ยวเนื่องพร้อมสนองนโยบายของรัฐบาลในการลงทุนสร้างโรงงานเพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ สร้างงาน สร้างรายได้ เพิ่มGDP ซึ่งในปัจจุบันคลัสเตอร์ปิโตรเคมีได้มีการลงทุนและผลิตสินค้าต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 900,000 ล้านบาท ในอนาคต 3-5 ปีข้างหน้าคาดว่าจะขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20,000 - 50,000 ล้านบาท ทำให้เกิดการจ้างงานนับหมื่นคน มีเงินไหลเวียนภายในประเทศ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการในคลัสเตอร์ปิโตรเคมี มีเป้าหมายร่วมกันที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีของไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำในเขตเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน (AEC) ที่มีความมั่นคงด้านการผลิต Petro-based และพัฒนา Bio-based เพิ่มขีดความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์พิเศษ (Specialty products) ควบคู่กับการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม สร้างความสุขที่ยั่งยืนให้กับชุมชน

“ในแผนการดำเนินงานของคลัสเตอร์ปิโตรเคมีเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ครอบคลุมการยกระดับให้นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง เป็นซูเปอร์คลัสเตอร์ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่เล็งเห็นว่า มาบตาพุดเป็นนิคมอุตสาหกรรมครบวงจรที่มีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มปิโตรเคมีที่มีการดำเนินธุรกิจตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำพร้อมขยายไปสู่อุตสาหกรรมไบโอพลาสติก หรืออุตสาหกรรมชีวภาพ (Bio based Products) ที่ใช้พืชผลทางการเกษตรเป็นวัตถุดิบและนำไปเพิ่มมูลค่า อีกทั้งมีมาตรการเชิงรุกในการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูง (Valued Added Products) พร้อมส่งเสริมการวิจัยพัฒนาและใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อทดแทนการนำเข้า และปรับปรุงรูปแบบการดำเนินการ บริการต่างๆ เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป"นายบวร กล่าว

อนึ่ง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตของประชาชนให้มีความสะดวกสบาย เช่น เสื้อผ้า เครื่องนุ่มห่ม โฟม บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม แห อวน อุปกรณ์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม โดยคัดแยกขยะ นำหลัก 3Rs ได้แก่ Reduced Reused Recycled มาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ก็จะทำให้สิ่งแวดล้อมของประเทศและโลกดีขึ้น

ขณะที่ในวันนี้คลัสเตอร์ปิโตรเคมี ได้พาสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมโรงงานของบริษัท พรีแพคประเทศไทย จำกัด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านคุณภาพการผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนสำหรับเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ อาทิ อาหารทะเลแช่แข็ง ข้าวสาร ผ้าอ้อม ฯลฯ ในเอเชียที่ดำเนินธุรกิจตามมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล อาทิ มาตรฐานระบบคุณภาพ ISO 9001 ISO 14001 ISO 18000 เครื่องหมายรับรอง GMP และ HACCP สามารถดำเนินธุรกิจโดยมีโรงงานตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชนใน อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม และอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข สามารถสนับสนุนคน อัมพวาให้มีรายได้ มีอาชีพที่มั่นคง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ