ทั้งนี้ การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ โดยขอเปลี่ยนตำแหน่งรองประธาน จำนวน 1 ตำแหน่ง จาก รมช.คมนาคม เป็น รมว.คมนาคม เพื่อให้การทำงานมีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด และยกเลิกตำแหน่งรองประธาน 1 ตำแหน่ง คือ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2558
พร้อมทั้ง ขอยกเลิกตำแหน่งกรรมการ 2 ตำแหน่ง ได้แก่ 1) นางพรรณี สถาวโรดม (ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง) เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงล่าสุด และ 2) ผู้แทนการค้าไทย เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ได้มีการแต่งตั้งผู้แทนการค้าไทยอย่างเป็นทางการ
ส่วนการแก้ไขอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 ข้อ 4 จาก “การรายงานผลความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายให้นายกรัฐมนตรีทราบทุก 2 สัปดาห์" เป็น “การรายงานผลความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้นายกรัฐมนตรีทราบทุก 1 เดือน" เพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และนำข้อมูลมาประมวลปัญหาอุปสรรคและเสนอแนะแนวทางแก้ไขต่อนายกรัฐมนตรีได้อย่างครบถ้วน ทั้งนี้ เนื่องจากการรายงานผลการเบิกจ่ายตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทุก 2 สัปดาห์ อาจจะไม่เห็นข้อมูลความก้าวหน้าการดำเนินงานได้มากนัก ด้วยเหตุนี้ จึงอาจทำให้การรายงานผลความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรค การดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้นายกรัฐมนตรีทราบทุก 2 สัปดาห์นั้น อาจไม่สามารถสะท้อนให้เห็นข้อเท็จจริงได้มากเท่าที่ควร
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะมีการประชุมเป็นประจำเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเร่งรัดขับเคลื่อนแผนการลงทุนของประเทศ และรายงานผลความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคการดำเนินการให้นายกรัฐมนตรีทราบทุก 1 เดือน
ด้านกรอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ขอปรับปรุงใหม่ โดยปรับกรอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เหลือเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใช้เงิน และเพิ่มเติมมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 ไว้ในกรอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คณะกรรมการฯ จะใช้ในการติดตาม ประกอบด้วย 4 มาตรการ ดังนี้
1) การขับเคลื่อนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน, 2) การส่งเสริมการลงทุน, 3) มาตรการการเงินการคลังเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะเร่งด่วน ประกอบด้วย 6 มาตรการย่อย ดังนี้ 1) มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย 2) มาตรการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น 3) มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) (Soft Loan) 4) มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับหมู่บ้านของประชาชนผู้มีรายได้น้อย (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558) 5) มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558) 6) มาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2588)
อีกทั้งมาตรการสำคัญเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและความยากจนในการเสริมสร้างความยั่งยืน (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2558)