กกพ.เห็นชอบลดอัตราค่าไฟฟ้าขายปลีก 1.05 สต./หน่วยสะท้อนต้นทุน มีผลพ.ย.58

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 2, 2015 12:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษกของ กกพ. เปิดเผยถึงการปรับโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ว่า ภายหลังจากที่ได้เปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ของสำนักงาน กกพ. ระหว่างวันที่ 16-28 ก.ย.58 โดยเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา กกพ.ได้มีมติเห็นชอบอัตราค่าไฟฟ้าปี 2558 ประกอบด้วย โครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าขายส่ง-ขายปลีก, สูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ, การชดเชยรายได้ระหว่างการไฟฟ้า และแนวทางการกำกับการดำเนินงานตามแผนการลงทุน โดยทั้งหมดนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป

สำหรับโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าขายปลีกในปัจจุบันได้มีการใช้มาตั้งแต่เดือนมิ.ย.55 เป็นเวลากว่า 3 ปี ประกอบด้วย ค่าไฟฟ้าฐานประมาณ 3.27 บาทต่อหน่วย และค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ(เอฟที) ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนทุก 4 เดือน โดยแนวทางการปรับโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าขายปลีกปี 2558 จะสอดคล้องกับมติ กพช.ที่กำหนดให้สอดคล้องกับค่าเอฟทีเดือนพ.ค.-ส.ค.58 เท่ากับ 49.61 สตางค์/หน่วย ดังนั้นการปรับโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าปี 2558 นี้ จึงเป็นการรวมค่าไฟฟ้าฐานเดิมและค่าเอฟทีเดือนพ.ค.-ส.ค.58 ไว้ด้วยกันเป็นอัตราค่าไฟฟ้าฐานใหม่ (3.7661 บาท/หน่วย) และ กกพ.ได้พิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว เห็นว่าสามารถปรับลดค่าไฟฟ้าลงได้ 1.05 สตางค์/หน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าฐานใหม่จะอยู่ที่ 3.7556 บาท/หน่วย

สาระสำคัญของการปรับปรุงโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าปี 2558 คือ 1) ปรับลดค่าไฟฟ้าขายปลีกเฉลี่ยลดลง 1.05 สตางค์/หน่วย ซึ่งเป็นผลมาจากการทบทวนความต้องการรายได้ของการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง (กฟผ. กฟน. และ กฟภ.) และการกำกับดูแลแผนการลงทุนของการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ที่มีเงินลงทุนต่ำกว่าแผนรวมเป็นเงินประมาณ 25,696 ล้านบาท โดย กกพ.ได้ปรับจากเงินลงทุนที่ต่ำกว่าแผนในช่วงปี 2555 – 2556 มาลดค่าไฟฟ้าได้จำนวน 3,220 ล้านบาท หรือประมาณ 0.81 สตางค์/หน่วย

2) ปรับอัตราค่าไฟฟ้าที่แตกต่างกันตามช่วงเวลาของการใช้ (TOU) ให้สะท้อนต้นทุนการผลิตที่แท้จริง 3) ทบทวนอัตราเงินอุดหนุนค่าไฟฟ้าฟรีสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่มีรายได้น้อย หรือนโยบายค่าไฟฟ้าฟรี 50 หน่วย 4) กำหนดให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รับภาระค่าธรรมเนียมหักบัญชีธนาคารให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าในลักษณะเดียวกับการไฟฟ้านครหลวง เพื่อให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายมีมาตรฐานเดียวกันในการดำเนินงาน

สำหรับการปรับค่าเอฟทีในเดือนก.ย.-ธ.ค.58 ที่ผ่านมา กกพ.ได้มีมติให้ปรับลดลงจาก 49.61 สตางค์/หน่วย ลงเหลือ 46.38 สตางค์/หน่วย หรือลดลงจำนวน -3.23 สตางค์/หน่วย ซึ่งมีการเรียกเก็บในเดือนก.ย.-ต.ค.58 มาแล้วนั้น เมื่อมีการปรับอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ กกพ.ได้เห็นชอบให้มีการเรียกเก็บค่าเอฟทีรอบเดือนพ.ย.-ธ.ค.58 จำนวน -3.23 สตางค์/หน่วย สำหรับค่าเอฟทีรอบเดือนม.ค.-เม.ย.59 เป็นต้นไป จะปรับตามต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไปจากค่าไฟฟ้าฐานใหม่เท่านั้น

"การปรับโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าปี 2558 ครั้งนี้ เป็นไปเพื่อให้มีการกำหนดอัตราค่าบริการไฟฟ้าที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ เงินลงทุน โดยคำนึงถึงความเป็นธรรมต่อผู้ใช้ไฟฟ้าและผู้ประกอบกิจการไฟฟ้าเป็นสำคัญ โดย กกพ.ได้แจ้งให้การไฟฟ้าดำเนินการประกาศเผยแพร่อัตราค่าบริการไฟฟ้าใหม่นี้ ผ่านทางเว็บไซต์ของหน่วยงาน สำนักงานการไฟฟ้า การประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงเอกสารเผยแพร่ เพื่อให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศได้รับรู้และรับทราบข้อมูลอย่างทั่วถึงก่อนการใช้ไฟฟ้าประจำเดือนพ.ย.58" นายวีระพล กล่าว

แท็ก ค่าไฟฟ้า  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ