(เพิ่มเติม) SCB EIC คาด GDP ไทยปี 58 ขยายตัว 2.0-2.5% ก่อนโต 2.5-3.0% ในปี 59

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 5, 2015 10:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 58 จะขยายตัวได้ 2.0-2.5% ก่อนมาขยายตัว 2.5-3.0% ในปี 2559 ซึ่งเป็นการปรับลดประมาณการลงจากเดิมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ค่อนข้างน้อย เนื่องจากภาคการส่งออกได้รับผลกระทบโดยตรงจากการชะลอตัวลงของการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมแลถภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ทำให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง รวมถึงทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ไทยส่งออกยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัว

นอกจากนี้ การส่งออกไปยังประเทศแถบอาเซียนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากหลายประเทศที่พึ่งพาการส่งออกไปจีนมีเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและค่าเงินที่อ่อนค่า ภาวะดังกล่าวทำให้ครัวเรือนในภาคเกษตรและธุรกิจขนาดเล็กประสบปัญหาด้านรายได้ และยังทำให้ภาคธุรกิจโดยรวมชะลอการลงทุนออกไปเพราะขาดความเชื่อมั่นแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับต่ำก็ตาม

ทั้งนี้ การชะลอตัวลงของจีนเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยไปอีกหลายปี

นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการเศรษฐกิจมหภาค SCB EIC ระบุว่า แรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยในปี 2559 จะมาจากการดำเนินนโยบายของภาครัฐและภาคการท่องเที่ยว อุปสรรคในภาคการส่งออกทำให้ภาครัฐจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น สำหรับปี 2559 การใช้จ่ายในประเทศน่าจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่องให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการรายเล็กที่เริ่มต้นในเดือนกันยายน 2558 ในด้านงบประมาณ รัฐบาลมีแผนดำเนินนโยบายการคลังที่ขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 3.9 แสนล้านบาท จากเดิม 2.5 แสนล้านบาท โดยงบประมาณลงทุนในปีงบประมาณ 2559 จะเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ การเร่งสร้างความเชื่อมั่นและกำหนดทิศทางการส่งเสริมการลงทุนให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทั้งในและนอกประเทศจะเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับการลงทุนภาคเอกชนในระยะต่อไป นอกเหนือจากการดำเนินนโยบายของภาครัฐแล้ว ภาคการท่องเที่ยวจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของไทยอีกครั้งในปี 2559 เพราะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศน่าจะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 10% และในส่วนของนักท่องเที่ยวจากจีนก็ไม่ได้ชะลอลงตามเศรษฐกิจ

ปัจจัยเสี่ยงในเรื่องเงินทุนเคลื่อนย้านเป็นสิ่งที่ยังต้องเฝ้าระวังในระยะต่อไป การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจและแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ จุดชนวนทำให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินและตลาดทุน รวมถึงเกิดกระแสเงินทุนไหลออกจากประเทศตลาดเกิดใหม่ ส่งผลให้บางประเทศในแถบอาเซียนมีค่าเงินที่อ่อนค่าลงอย่างมากและยังต้องสูญเสียเงินสำรองระหว่างประเทศจนทำให้มีเหลือน้อยเมื่อเทียบกับหน้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นความเสี่ยงของการเกิดวิกฤติการเงินและวิกฤติเศรษฐกิจขึ้นอีกครั้ง ดังนั้น ธุรกิจไทยจึงควรเฝ้าติดตามสถานการณ์ของประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิดเพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงของคู่ค้า

สำหรับไทย SCB EIC ประเมินว่า การไหลออกของเงินทุนและการอ่อนค่าของเงินบาทจะไม่รุนแรง และไม่เป็นอุปสรรคต่อการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ