เงินบาทปิด 35.93/95 แข็งค่าต่อหลังดอลล์อ่อน มองกรอบพรุ่งนี้ 35.80-36.00

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 7, 2015 17:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.93/95 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.28/29 บาท/ดอลลาร์

ช่วงเย็นวันนี้เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนเปิดตลาดในช่วงเช้า หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงนี้ออกมาไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะยอดขาดดุลการค้าเดือนส.ค. ซึ่งถือเป็นการขาดดุลการค้ามากสุดในรอบ 5 เดือน จึงส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

"ช่วงนี้ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาไม่ค่อยดี ล่าสุดดุลการค้าก็ขาดดุลมาก จึงทำให้ตลาดมองว่าโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้มีน้อยลง" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.80 - 36.00 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.01/03 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 120.28 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรช่วงเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.1238 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1267 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,393.66 เพิ่มขึ้น 22.97 จุด (+1.68%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 49,807 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,100.13 ลบ.(SET+MAI)
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนภาคเอกชน โดยที่ประชุมฯ ได้มีการหารือมาตรการให้ความช่วยเหลือ SMEs ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้ทุกฝ่ายช่วยทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ SMEs ว่ารัฐบาลมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ต้องการให้มีการขึ้นทะเบียนถูกต้อง เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับ SMEs และสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น รวมถึงอยากให้มีการจัดทำบัญชี SMEs ให้เกิดความถูกต้อง โดยให้ภาคเอกชนเข้ามีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลความรู้ในการจัดทำบัญชีให้กับ SMEs และจัดทำเป็นระบบบัญชีเดียว
  • ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ประจำไตรมาส 3 ปี 2558 พบว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบัน (Current Situation Index) มีค่าเท่ากับ 52.2 สูงกว่าค่ากลาง และปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว (ไตรมาส 2/2558) ซึ่งดัชนีมีค่าเท่ากับ 50.4 แสดงให้เห็นว่า ผู้ประกอบการมีความความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น

ขณะที่ ความคาดหวังในอนาคตโดยภาพรวมยังดีอยู่ โดยผู้ประกอบการมีความคาดหวังมาตรการกระตุ้นภาคที่อยู่อาศัยที่กระทรวงการคลังกำลังพิจารณารูปแบบที่เหมาะสม

  • นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยภายถึงผลการดำเนินงานของกรมบัญชีกลางที่สำคัญในปีงบประมาณ 2558 (ต.ค.57 - 30 ก.ย.58) ได้แก่ ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2558 เบิกจ่ายเงินในภาพรวมได้ 2,378,115 ล้านบาท คิดเป็น 92.4% ของวงเงินงบประมาณทั้งปี 2,575,000 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายรายจ่ายประจำได้ 2,082,573 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 2,125,524 ล้านบาท หรือคิดเป็นกว่า 98%
  • นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์(SCBS) กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวผันผวนอย่างไร้ทิศทางจนถึงปลายไตรมาส 4/58 ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนที่ดัชนีปรับลง 5.7% โดยต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกเนื่องจากความไม่แน่นอนหลายอย่างยังจะคงอยู่ต่อไป โดยเฉพาะความแตกต่างในการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศสำคัญๆ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษในการประชุมวันนี้ และได้คงระดับการประเมินเศรษฐกิจ โดยระบุว่า "เศรษฐกิจฟื้นตัวปานกลาง" แม้แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อยังคงซบเซาอยู่ก็ตาม พร้อมระบุว่าการส่งออกและการผลิตได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่
  • นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ยังคงคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายในปีนี้ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาสหรัฐฯ จะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนมากคาดว่าเฟดจะเลื่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปเป็นปี 2559 จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะเป็นช่วงการประชุม FOMC เดือนธ.ค.ปีนี้
  • สำนักงานคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนส.ค. โดยดัชนีพ้องเศรษฐกิจ (index of coincident indicators) เช่น ผลผลิตอุตสาหกรรม การค้าปลีก และการจ้างงานใหม่ ปรับตัวลดลง 0.6 จุดจากเดือนก่อน แตะที่ 112.5 เมื่อเทียบกับฐาน 100 ในปี 2553
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 98 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 10,620 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,145.83 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.57 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ