เงินบาทเปิด 35.74 แข็งค่าจากแรงเทขายดอลลาร์-เงินทุนไหลเข้าตลาดบอนด์

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 9, 2015 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.74 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.00 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค หลังมีแรงเทขายดอลลาร์ เนื่องจากตลาดมองว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป ประกอบกับเมื่อวานนี้มีเงินทุนจากต่างประเทศเข้ามาในตลาดพันธบัตรราว 1 หมื่นล้านบาท มากสุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน โดยเมื่อเวลา 09.25 น.เงินบาทอยู่ที่ระดับ 35.69 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทแข็งค่าเร็วมาก หลังมีแรงเทขายดอลลาร์ และเมื่อวานต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในตลาด bond ราว 1 หมื่นล้านบาท มากสุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 35.60-35.77 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.90 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.77 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1278 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1298 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.9530 บาท/ดอลลาร์
  • การประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศ G20 ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู เริ่มเปิดฉากแล้ว โดยที่ประชุมแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับความเสี่ยงต่างๆที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเผชิญกับภาวะขาลง อันเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
  • รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เมื่อวันที่ 16-17 ก.ย. แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการเป็นครั้งแรกในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าคาดการณ์ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,050.75 จุด พุ่งขึ้น 138.46 จุด หรือ +0.82% ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,810.79 จุด เพิ่มขึ้น 19.64 จุด หรือ +0.41% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,013.43 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด หรือ +0.88%
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้เนื่องจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มรถยนต์ ช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสถิติเยอรมนี (Destatis) ที่ระบุว่า ยอดส่งออกเดือน ส.ค.ของเยอรมนีหดตัวลงมากกว่า 5% โดยดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 361.61 จุด ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,675.91 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด หรือ +0.18% ส่วนดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,993.07 จุด เพิ่มขึ้น 22.67 จุด หรือ +0.23%
  • ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะยังคงนโยบายการเงินเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 38.47 จุด หรือ 0.61% ที่ระดับ 6,374.82 จุด
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่า การลำเลียงขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลางอาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่รัสเซียเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย โดยพุ่งเป้าทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น 1.62 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 49.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 53.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ข้อมูลแรงงานรายสัปดาห์ที่ยังคงแข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 4.40 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ระดับ 1,144.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 32.80 เซนต์ ปิดที่ 15.766 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้น 9.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 955.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 703.15 ดอลลาร์/ออนซ์

  • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ หลังจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินเดือน ก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ