"ผู้นำเข้ามีวิธีการหลบเลี่ยงเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียอากรเอดี/ซีวีดี ด้วยการแอบเปลี่ยนแหล่งกำเนิดสินค้าในใบขนไปเป็นนำเข้าจากประเทศอื่นที่ไม่ถูกใช้มาตรการแทน หรือแอบเปลี่ยนพิกัดศุลกากรไปเป็นนำเข้าสินค้ารายการอื่นที่ไม่ถูกใช้มาตรการ หรือแยกชิ้นส่วนนำเข้าแล้วนำมาประกอบใหม่ ซึ่งในปัจจุบัน พ.ร.บ.ตอบโต้การทุ่มตลาดของไม่มีการป้องกันในเรื่องนี้" นายสุวิทย์ กล่าว
สำหรับพฤติกรรมดังกล่าวถือว่าสร้างความเสียหายให้กับไทยมาก เพราะนอกจากผู้นำเข้าไม่ต้องเสียอากรเอดี/ซีวีดีแล้ว ยังทำให้สินค้าเหล่านั้นเข้ามาตีตลาดสินค้าชนิดเดียวกันของผู้ผลิตไทยได้เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่การใช้มาตรการเอดี/ซีวีดี หมายถึง สินค้าชนิดนั้นได้เข้ามาทุ่มตลาด และสร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมภายในของไทย ทั้งนี้คาดจะเสนอให้ รมว.พาณิชย์พิจารณาเห็นชอบได้ในเร็วๆ นี้ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป คาดว่า น่าจะมีผลบังคับใช้ได้ราวกลางปี 59