เงินบาทปิด 35.76 อ่อนค่าตามทิศทางภูมิภาค ตลาดรอปัจจัยใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 26, 2015 17:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.76 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 35.70 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 35.69-35.77 บาท/ดอลลาร์ ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา
"เงินบาทอ่อนค่าตามภูมิภาค แต่ไม่ได้ผันผวนรุนแรง นักลงทุนค่อนข้างระมัดระวัง เพราะวันนี้ตลาดสหรัฐปิดทำการ ทำให้ชะลอซื้อดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 35.70-35.85 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า แต่อาจไม่มาก" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 122.59 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 122.63 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0609 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0619 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดช่วงเช้าที่ระดับ 1,365.81 จุด ลดลง 15.65 จุด, -1.13% มูลค่าการซื้อขาย 33,676.79 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 432.55 ล้านบาท(SET+MAI)
  • นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง มั่นใจภาวะเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 3.8% เนื่องจากพื้นฐานของเศรษฐกิจดีขึ้นกว่าปีนี้มาก โดยเฉพาะการขับเคลื่อนโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญ โดยแหล่งเงินจะมาจากงบประมาณ โครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน(PPP) และกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์(กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน)
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุถึงเงินที่ได้จากการประมูลคลื่นความถี่ในระบบ 4G ว่า เงินที่ได้จากการประมูลจะต้องนำส่งเข้าสู่กระทรวงการคลัง และงบประมาณแผ่นดิน เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมของรัฐอีกหลายอย่าง และต้องเป็นโครงการที่เกิดประโยชน์ โดยตอนนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะนำไปใช้ในด้านใดเป็นพิเศษ แต่เงินที่ได้จะต้องนำไปใช้ในมาตรการเร่งด่วนของภาครัฐ ทั้งการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟ รถไฟฟ้า และถนน
  • นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) มั่นใจเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ของปีนี้จะสามารถเติบโตได้ดีที่สุดในรอบปี โดยคาดว่าจะเติบโตได้ 2.9% ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยงบลงทุนในปีงบประมาณ 59 ที่ช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเชื่อว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ(GDP)ไทยในปีนี้จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 2.8% ขณะที่คาดว่าการส่งออกปีนี้จะติดลบ 5.4%
  • ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ต.ค.58 เศรษฐกิจไทยมีปัจจัยบวกจากความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ และบทบาทนโยบายการคลังผ่านการลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวได้ในระดับสูง ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2558 จะสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยบนเว็บไซต์ว่า ธนาคารกลางของต่างประเทศและสถาบันอื่นๆที่มีความคล้ายคลึงกันกลุ่มแรก ได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำธุรกรรมในตลาดปริวรรตเงินตราอินเตอร์แบงก์ของจีน สถาบันกลุ่มนี้จะได้รับอนุญาตให้สามารถทำธุรกรรมซื้อขายเงินหยวนและสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสปอต สัญญาฟอร์เวิร์ด สว็อป และออปชัน
  • สำนักงานสถิติของฟิลิปปินส์ เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ขยายตัว 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่อง หลังจากมีการเติบโต 5.8% ในไตรมาส 2 โดยได้รับแรงหนุนจากการบริโภคในภาคเอกชนที่แข็งแกร่งและการใช้จ่ายของภาครัฐบาลที่เพิ่มขึ้น
  • คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางบราซิล มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 14.25% ในการประชุมวันนี้ โดยธนาคารกลางได้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุม 3 ครั้งติดต่อกัน นับตั้งแต่สิ้นเดือน มิ.ย.เป็นต้นมา
  • ธนาคารกลางเกาหลีใต้(BOK) เผยความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเกาหลีใต้ที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจในเดือน พ.ย.ได้ปรับตัวดีขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ขานรับมาตรการกระตุ้นทางการเงินและการคลัง โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค(CCSI) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1 จุดจากเดือนก่อนหน้า แตะ 106 ในเดือน พ.ย.
  • นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ในการประชุมวันที่ 3 ธ.ค.นี้ หลังจากที่ ECB ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนเมื่อเดือนที่แล้ว

แท็ก เงินบาท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ