นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวตามภูมิภาค โดยล่าสุดเมื่อเวลา 15.45 น. ทำ Low ที่ระดับ 35.85 บาท/ดอลลาร์ และทำ High ที่ 35.92 บาท/ดอลลาร์ตอนเปิดตลาด
"ระหว่างวันเคลื่อนไหวตามภูมิภาคและแรงซื้อแรงขาย คาดว่าน่าจะรอตัวเลขสำคัญ คือ Non Farm Pero ของสหรัฐฯซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของปีและจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อการตัดสินใจสำหรับการประชุมเฟดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.80-35.95 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 122.70 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 122.58/60 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0580 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.0580/0585 ดอลลาร์/ยูโร
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงินเดือน ต.ค.58 ว่า เศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ทำได้ดีต่อเนื่อง การบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวจากการใช้จายในกลุ่มสินค้าจำเป็นและบริการ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มีสัญญาณปรับดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเป็นสำคัญ
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า เดือน ต.ค.58 ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ระดับ 47.3 มาอยู่ที่ระดับ 50.2 หลังจากที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 มาสี่เดือนติดต่อกันจากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในกลุ่มอาหาร กลุ่มขนส่งและโทรคมนาคม และกลุ่มบริการทางการเงินเป็นส่าคัญ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในองค์ประกอบด้านการผลิต การลงทุน และการจ้างงาน ส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อมั่นด้านค่าสั่งซื้อที่ปรับดีขึ้นทั้งจากในและต่างประเทศ สอดคล้องกับการปรับลดลงของสัดส่วนผู้ประกอบการที่เห็นว่าความต้องการจากตลาดในประเทศที่อยู่ในระดับต่าเป็นข้อจ่ากัดส่าคัญในการด่าเนินธุรกิจ
- นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โลกเริ่มตึงเครียดขึ้นต่อเนื่องจากการโจมตีกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาถึงตุรกีได้ยิงเครื่องบินรบรัสเซียตกกลายเป็นประเด็นความตึงเครียดครั้งใหญ่จนทำให้นาโต้ออกมาแสดงความเห็นให้ใช้ความอดทนในการแก้ไขปัญหา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวพบว่ามีผลทำให้ราคาทองคำแกว่งตัวเพียงเล็กน้อย โดยราคาทองคำไม่ตอบกระแสข่าวดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ
- นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอร่าง พ.ร.บ.กองทุนเพิ่มขีดความสามารถและการแข่งขันในอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมาย ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาในสัปดาห์หน้า(8 ธ.ค.) หลังจาก ครม.ได้อนุมัติหลักการเบื้องต้นในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวไปแล้ว และกำหนดวงเงินไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าเงินกองทุนนี้จะนำมาจากงบประมาณแผ่นดิน และหากในอนาคตยังไม่เพียงพอก็สามารถของบประมาณเพิ่มเติมได้
- ดอลลาร์ยังคงแข็งค่าแตะกรอบบนของ 122 เยนในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อดอลลาร์จากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ออกแถลงการณ์แต่งตั้งให้ไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงก์ เป็นธนาคารชำระดุลเงินหยวนในสวิตเซอร์แลนด์
- สื่อต่างประเทศคาดว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันนี้ จะอนุมัติให้เงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าสกุลเงิน SDR (Special Drawing Right) โดยมีผลบังคับใช้ในปีหน้า ซึ่งการรวมเงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าดังกล่าวจะทำให้สถานะของเงินหยวนผงาดขึ้นสู่เวทีการเงินโลก
- นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เรียกร้องให้ภาคเอกชนปรับขึ้นเงินเดือนให้สอดคล้องกับความพยายามของธนาคารกลางที่จะบรรลุอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 2% โดยระบุว่า สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมได้ถูกกำหนดขึ้นมาไว้สำหรับเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว