(เพิ่มเติม1) ธปท.เผย ศก.ไทย ต.ค.ฟื้นค่อยเป็นค่อยไป ทุนต่างชาติไหลเข้าสุทธิครั้งแรกรอบ 6 เดือน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 30, 2015 16:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงินเดือน ต.ค.58 ว่า เศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ทำได้ดีต่อเนื่อง การบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวจากการใช้จายในกลุ่มสินค้าจำเป็นและบริการ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มีสัญญาณปรับดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าที่ยังคงหดตัวต่อเนื่องตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและอาเซียน ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชนอยู่ในระดับต่ำ สอดคล้องกับอัตราการใช้กำลังการผลิตที่อยู่ต่ำกว่าระดับปกติในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากราคาอาหารสดที่เพิ่มขึ้น และผลของฐานราคาน้ำมันที่สูงทยอยลดลง อัตราการว่างงานทรงตัว โดยมีแรงงานย้ายกลับเข้าสู่ภาคเกษตรเพื่อการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่องจากการนำเข้าที่อยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุล แม้ในเดือนนี้มีการไหลเข้าสุทธิของเงินลงทุนในหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน หลังธนาคารกลางสหรัฐมีท่าทีเลื่อนเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกไปชั่วคราว

นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธปท. กล่าวว่า ในเดือนต.ค.58 การใช้จ่ายภาครัฐทำได้ดีต่อเนื่องทั้งการเบิกจ่ายงบประจำและงบลงทุน โดยการเบิกจ่ายลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเป็นโครงการขนาดเล็กด้านคมนาคมและชลประทาน ประกอบกับมีการเร่งเบิกจ่ายเพื่อปรับปรุงอาคารและสิ่งปลูกสร้างของมหาวิทยาลัยในช่วงต้นปีงบประมาณ ด้านรายได้รัฐบาลหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนตามรายได้ที่มิใช่ภาษี เนื่องจากรัฐวิสาหกิจได้เร่งนำส่งรายได้ไปแล้วในเดือนก่อน ขณะที่รายได้ภาษีขยายตัวบ้าง สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ มาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมาตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนมีส่วนทำให้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในอนาคตของผู้บริโภคและภาคธุรกิจปรับดีขึ้น

เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นในหมวดสินค้าไม่คงทนกลุ่มสินค้าจำเป็นและหมวดบริการ อาทิ การสื่อสารและขนส่ง โดยปัจจัยสนับสนุนมาจาก 1) กำลังซื้อนอกภาคเกษตรที่ปรับดีขึ้นบ้าง ส่วนหนึ่งเพราะราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง และ 2) ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่กระเตื้องขึ้น อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทน อาทิ รถยนต์ แม้ปรับดีขึ้นบ้างเพราะผู้บริโภคบางส่วนตัดสินใจซื้อก่อนการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตรถยนต์บางรุ่นในช่วงต้นปีหน้า แต่โดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำ สอดคล้องกับรายได้ของครัวเรือนภาคเกษตรที่ตกต่ำ และภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังสูง รวมทั้งความระมัดระวังของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อแก่ภาคครัวเรือนหลังสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

ภาคการท่องเที่ยวมีสัญญาณปรับดีขึ้น สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ขยายตัวจากเดือนก่อนในอัตราร้อยละ 3.7 หลังจากหดตัวติดต่อกัน 2 เดือนเพราะเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯ โดยเป็นผลจากการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก อย่างไรก็ดี จำนวนนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศสำคัญยังคงปรับลดลงจากเดือนก่อน อาทิ มาเลเซีย และรัสเซีย

มูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวร้อยละ 8.0 จากระยะเดียวกันปีก่อนเพราะ 1) การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและอาเซียนซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญ 2) ราคาส่งออกสินค้าหลายชนิดอยู่ในระดับต่ำกว่าปีที่แล้วตามทิศทางราคาน้ำมันโลก และ 3) ผลของฐานสูงในช่วงปลายปีก่อนที่มีการเร่งส่งออกสินค้าที่ใกล้จะหมดสิทธิประโยชน์GSP ทั้งนี้แม้การส่งออกสินค้าส่วนใหญ่หดตัว แต่สินค้าบางหมวดสามารถขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง อาทิ รถยนต์โดยเฉพาะรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่เพิ่งมีการปรับเปลี่ยนรุ่น รวมทั้งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเลนส์ เพื่อนำไปประกอบเป็นโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตรุ่นใหม่ในจีน

อุปสงค์ในประเทศที่ยังฟื้นตัวไม่เข้มแข็งและการส่งออกที่อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน ในขณะเดียวกันเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากธุรกิจมีกำลังการผลิตเพียงพอรองรับความต้องการสินค้าทั้งในและต่างประเทศที่ยังมีไม่มากนัก โดยในเดือนนี้อัตราการใช้กำลังการผลิตในภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ร้อยละ 60.4 การนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อลงทุนขยายกำลังการผลิตจึงยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่การลงทุนก่อสร้างค่อนข้างทรงตัวสอดคล้องกับภาวะอสังหาริมทรัพย์

มูลค่าการนำเข้าสินค้าหดตัวร้อยละ 21.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการหดตัวต่อเนื่องในเกือบทุกหมวด ทั้งการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคและวัตถุดิบ (ไม่รวมน้ำมัน) ที่หดตัวสอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะในภาคการผลิตอุตสาหกรรม ส่วนการนำเข้าน้ำมันดิบที่หดตัวสูงเป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลงเป็นหลัก อย่างไรก็ดี การนำเข้าสินค้าทุนขยายตัวได้ตามการนำเข้าเครื่องบิน ขณะที่การนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ยังคงหดตัว สอดคล้องกับภาวะการลงทุนในประเทศ

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ -0.77 จากราคาอาหารสดที่เพิ่มขึ้นและผลของฐานราคาน้ำมันสูงที่ทยอยลดลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 0.95 ตามอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป สำหรับอัตราว่างงานใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยแรงงานทยอยย้ายกลับเข้าสู่ภาคเกษตรตามการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี

ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูงที่ 5.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ.เพราะการนำเข้าสินค้าที่อยู่ในระดับต่ำเป็นสำคัญ ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลจากการชำระคืนเงินกู้ต่างประเทศของสถาบันรับฝากเงิน และการออกไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศของนักลงทุนไทย

อย่างไรก็ดี ในเดือนต.ค.นี้มีการไหลกลับเข้ามาของเงินลงทุนในหลักทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ มีท่าทีเลื่อนช่วงเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกไปชั่วคราว

นางรุ่ง ยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี 2558 และในปี 2559 ยังมีความเปราะบาง เพราะยังปัจจัยเสี่ยงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอน รวมถึงตลาดการเงินที่ยังมีความผันผวนจากการเคลื่อนย้ายเงินทุน แต่จะมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะยืดเวลาการขึ้นดอกเบี้ยออกไป ตลอดจนปัญหาภัยสงครามในหลายประเทศทั่วโลกที่อาจจะกระทบต่อการท่องเที่ยว ซึ่งถือว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ