นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 36.06/08 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.04/09 บาท/ดอลลาร์
"ช่วงนี้เงินบาทกลับมาแข็งค่าเนื่องจากดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า เมื่อเทียบกับทุกสกุล หลังจาก FOMC ประกาศขึ้น Rate ดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้นมาค่อนข้างแรง บาทขยับอ่อนค่ามาต่อเนื่อง แต่เหมือนกับว่าติดแนวต้าน 36.20 ซึ่งพยายามจะผ่านไปให้ได้หลายครั้งแล้วแต่ยังไม่สำเร็จเสียที" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน กล่าวว่า แนวรับสำคัญ 36.00 และ 35.95 บาท/ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านหลัก 36.20 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.97 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 120.90 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0945 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0919 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.0910 บาท/ดอลลาร์
- นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าความร่วมมือในการจัดตั้งกลไกการส่งเสริมการใช้เงินสกุลท้องถิ่นเพื่อการชำระธุรกรรมการค้าการลงทุนระหว่างไทยและมาเลเซีย โดยขณะนี้ธนาคารกลางทั้ง 2 ประเทศได้ข้อสรุปและรายละเอียดการผ่อนปรนระเบียบการควบคุมแลกเปลี่ยนเงินบางประการให้ธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) ที่จะทำหน้าที่ให้บริการเงินสกุลริงกิตและบาท เพื่อให้บริการได้คล่องตัวมากขึ้น
- "บิ๊กธนารักษ์" แจงเคาะประเมินราคาที่ดินทั้งประเทศใหม่ วันที่ 23 ธ.ค.นี้ เพื่อประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.59 ถึง 31 ธ.ค.62 หรือเป็นเวลา 4 ปี
- ครม.ไฟเขียวเพิ่มวงเงินซอฟท์โลนให้เอสเอ็มอีอีก 5 หมื่นล้านบาท ปรับเงื่อนไขลดวงเงินให้กู้เหลือรายละ 10 ล้านบาท ออมสินเตรียมนำเข้าบอร์ดวาระพิเศษ 24 ธันวาคมนี้ คาดผู้ประกอบการยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่ 30 มิถุนายน 2559 พร้อมปล่อยให้ส่วนที่ยังค้างท่อต่อเนื่องหากวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท
- นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติ ให้กระทรวงคมนาคมเร่งยกร่างแผนแม่บทโครงการก่อสร้างที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานระยะที่ 2 ทั้งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ทางด่วนพิเศษระหว่างเมือง ทางด่วนยกระดับรถไฟทางคู่ การพัฒนาท่าเรือเข้าไปบรรจุในแผนพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ที่จะเริ่มใช้ในปี 60-64 เพื่อให้โครงการลงทุนมีความต่อเนื่องและเชื่อมโยงไปต่างจังหวัด และประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนให้เกิดขึ้นอย่างรูปธรรมแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศก็ตาม
- นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติ ให้กระทรวงคมนาคมเร่งยกร่างแผนแม่บทโครงการก่อสร้างที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานระยะที่ 2 ทั้งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ทางด่วนพิเศษระหว่างเมือง ทางด่วนยกระดับรถไฟทางคู่ การพัฒนาท่าเรือเข้าไปบรรจุในแผนพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ที่จะเริ่มใช้ในปี 60-64 เพื่อให้โครงการลงทุนมีความต่อเนื่องและเชื่อมโยงไปต่างจังหวัด และประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนให้เกิดขึ้นอย่างรูปธรรมแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศก็ตาม
- สอท.ร่วมกับ นิด้า ทำผลสำรวจผู้บริหารระดับสูงภาคธุรกิจ พบส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้ายังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับปีนี้ มี 38% คาดว่าจะดีขึ้น ภาคเอกชนยังกังวลเรื่องกำลังซื้อในประเทศเป็นหลัก รองลงมาคือเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะประเด็นของจีน ที่จะกระทบต่อตลาดโลก ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนพฤศจิกายน ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
- คลังเล็งลดภาษีบุคคลธรรมดา เพิ่มลดหย่อน หวังเพิ่มเงินในกระเป๋า เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย มั่นใจดันเศรษฐกิจปีขยายตัวได้กว่าปีนี้ 1% พร้อมเตรียมมาตรการส่งเสริมธุรกิจใหญ่ช่วยบริษัทเล็ก หวังลดช่องว่างสังคม
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.ร่วงลงหนักสุดในรอบ 19 เดือน นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทำกำไรสกุลเงินดอลลาร์ ก่อนที่จะถึงวันหยุดเนื่องในเทศกาลคริสต์มาส
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขั้นสุดท้ายสำหรับไตรมาส 3 ของปีนี้ ขยายตัว 2.0% โดยต่ำกว่าตัวเลขประเมินก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.1% และต่ำกว่าระดับ 3.9% ในไตรมาส 2 การชะลอตัวของจีดีพีดังกล่าวเกิดจากลดการใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้น 3.0% ในไตรมาส 3 และช่วยหนุนการขยายตัวของจีดีพีในไตรมาส 3 คิดเป็นสัดส่วน 2.04%
- สำนักงานเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) เปิดเผยว่า ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนต.ค. จากเดือนก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน FHFA ได้รับทบทวนราคาบ้านเดือนก.ย. โดยระบุว่าราคาบ้านเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 0.7% จากการประเมินก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าปรับตัวขึ้น 0.8%
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาส 3 สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 36.14 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 36.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงวันหยุดเนื่องในวันคริสต์มาส สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.60% ปิดที่ระดับ 1,074.1 ดอลลาร์/ออนซ์
- ธนาคารกลางจีนแถลงในวันนี้ว่า ทางธนาคารจะอนุญาตให้ธนาคารและสถาบันการเงินในประเทศออก"พันธบัตรสีเขียว"ในตลาดพันธบัตรอินเตอร์แบงก์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาพลังงานสะอาด