นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้ทุกกระทรวงไปจัดทำแผนงานโดยจัดลำดับความสำคัญ และแผนงานต้องมีความชัดเจน มีการกำหนดวัน เวลา ขั้นตอน ผลสำเร็จล่วงหน้า แล้วนำเสนอมายัง ครม.ภายในไตรมาสแรก หากโครงการไม่ชัดเจนจะยกเลิกนำเงินไปใช้ในส่วนอื่น เพราะที่ผ่านมาหลายโครงการมีการขออนุมัติงบประมาณแต่ไม่นำไปดำเนินการหรือเป็นโครงการที่ไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้ไปสรุปแผนงานปฎิรูปว่าในช่วง 1 ปี 6 เดือนจะต้องดำเนินการในด้านใดบ้าง โดยจัดเรียงลำดับความเร่งด่วน สิ่งไหนทำได้ทำทันที และให้มีการรายงานมาที่ตนเองด้วย
"แต่ละหน่วยงานต้องมีแผนงานที่ชัดเจน เพื่อนำเสนอครม. และต้องทำให้ได้ อย่าส่งสิ่งที่ทำไม่ได้มาเด็ดขาด และดูรายจ่าย รายรับให้สมดุลด้วย หากไม่มีแผนชัดเจนจะนำงบไปใช้อย่างอื่น"
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาการใช้งบประมาณไม่เกิดผลที่เป็นรูปธรรมมากนัก เพราะไม่มีการบูรณาการ และมีการเมืองมาชักนำ ดังนั้นข้าราชการจะต้องทำงานให้เต็มที่สมกับงบประมาณที่จ่ายไปจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลจะมีการเข้มงวดการใช้จ่ายงบประมาณมากขึ้น และพยายามจัดทำงบประมาณให้เกิดความสมดุล ซึ่งการจัดทำงบปี 2560 จะเป็นแนวทางเริ่มต้นให้สามารถจัดงบประมาณต่อไปในอนาคต โดยเน้นงบประมาณด้านการลงทุนมากขึ้น เพื่อหารายได้ให้กับประเทศ เพิ่มมูลค่าสินค้า พัฒนาด้านนวัตกรรม ลดการพึ่งพาการส่งออก และเตรียมความพร้อมรับมือกับการปฎิวัติเศรษฐกิจโลกครั้งที่ 4 ที่จะมีการหันมาใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และมีความทันสมัยมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณต้องทำแบบบูรณาการ ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและมีการแสวงหาความร่วมมือตามแนวทางประชารัฐ โดยใช้หลักการเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางและมีประชาชนเป็นศูนย์กลางให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างความเข้มแข็งภาคเกษตร และใช้งบประมาณด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งการจัดทำงบประมาณปีนี้เป็นการสร้างพื้นฐานเรื่องการใช้งบประมาณในรัฐบาลต่อไปด้วย เพื่อให้เกิดความทั่วถึง ลดความเลื้อมล่ำ สร้างความเป็นธรรม ที่สำคัญต้องมีความเชื่อมโยงตั้งแต่ระดับภูมิภาคไปสู่จังหวัด จนเชื่อมโยงไปถึงระดับอาเซียนและประชาคมโลก
"การทำงานทุกด้านเริ่มต้นที่งบประมาณทั้งสิ้น จึงต้องใช้ศักยภาพในประเทศมากกว่านำไปสู่การสร้างวิกฤต ไทยต้องก้าวข้ามขัดแย้ง ลดปัญหาทุจริต นำประเทศไปสู่ความก้าวหน้า และเดินหน้าประเทศเพื่อลูกหลานในวันข้างหน้า ขณะนี้ยังมีช่องว่างการพัฒนาในประเทศ เพราะคนรวยและคนจนมีความแตกต่างกันมาก ดังนั้นต้องมีความเชื่อมโยงด้วยนโยบายประชารัฐ โดยมีจุดเริ่มต้นของการพัฒนาคนคือการศึกษา อยากให้สร้างรวมพลังมากกว่าเก่งเพื่อสร้างความขัดแย้ง"
ส่วนตัวที่ปรับหลักเกณฑ์ประเมินระบบข้าราชการนั้นไม่ได้มุ่งหวังทำร้ายข้าราชการ แต่เป็นการสร้างความเข้มแข็งและรักษาศักดิ์ศรี สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน และเป็นการวางแนวทางไว้เพื่ออนาคต และขอให้ทุกหน่วยงานและทุกกระทรวงจัดทำงบประมาณให้สอดคล้องกับการแก้ปัญหาพื้นฐานของประเทศ โดยทุกคนต้องพัฒนา เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประเทศ
นายกรัฐมนตรี ยังฝากให้กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดไปดูแลเกษตรกรในเรื่องการเช่าพื้นที่ เพื่อไม่ให้ถูกนายทุนเอารัดเอาเปรียบ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดต้องลงพื้นที่ไปดูความเดือดร้อนประชาชนเพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่ให้เกษตรออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือหรือโอบอุ้มต่อไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่องบประมาณรัฐอย่างแน่นอน