นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานกรรมการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (IBANK) คาดว่าในปลายไตรมาส 2/59 จะสามารถสรุปผลการสรรหาพันธมิตรในรอบสุดท้าย (Final Bid) และคาดว่าจะเจรจาแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/59 ทั้งนี้ มีกลุ่มที่แสดงเจตจำนงเจ้ามาเป็นพันธมิตร และได้เข้าไปหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว 4 รายมาจากลุ่มประเทศตะวันออกกลางและเอเชีย ส่วนอีกกลุ่มที่แสดงความสนใจเข้ามาเพิ่มมีจำนวน 10 ราย มาจากเอเชีย กลุ่มประเทศตะวันออกกลางเช่นกัน
การหาพันธมิตรครั้งนี้ ธนาคารจะเปิดให้พันธมิตรใหม่เข้าถือหุ้นไม่เกิน 75.5% ของทุนจดทะเบียน และจะเปิดรับพันธมิตรมากกว่า 1 ราย ส่วนหน่วยงานรัฐจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือไม่ต่ำกว่า 25.5% จากปัจจุบัน IBANK ถือหุ้นโดยกระทรวงการคลัง 48.5% ธนาคารออมสิน 39% และธนาคารกรุงไทย (KTB) 9% ส่วนที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย ทั้งนี้ บล.ทิสโก้ บล.แมคไควรี่ เป็นที่ปรึกษาการเงินในการหาพันธมิตร
"การหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนคาดว่าเห็นภาพชัดเจนก่อนกลางปีนี้ และไม่ได้บอกว่ารายเดียว นอกจากความแข็งแกร่งเงินทุน เราต้องการเครือข่ายการทำธุรกิจการให้บริการครอบคลุมประเทศมุสลิม 55 ประเทศ นอกเหนือจากการทำธุรกิจฮาลาล ควรมีธุรกิจอื่น อย่างเช่น การลงทุนสนับสนุน mega project ในประเทศ" นายชัยวัฒน์กล่าว
ขณะเดียวกัน ธนาคารจะต้องไปหากผู้ทำความเสียหายให้มารับผิดชอบ ที่ทำให้วันนี้ IBANK มีหนี้เสีย 50% และ อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์ของธนาคาร (BIS Ratio) ติดลบ