ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.94 แข็งค่าตามภูมิภาค แนวโน้มแกว่งแคบ-วอลุ่มเบาบางก่อนหยุดยาว มองกรอบ 34.85-35.00

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 29, 2016 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.94 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ 35.02 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาค เป็นผลต่อเนื่องจากการประชุม FOMC และ BOJ

"เปิดตลาดเช้านี้บาทแข็งค่าตามภูมิภาค ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากการประชุม FOMC และ BOJ" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.85-35.00 บาท/ดอลลาร์

"สัปดาห์หน้าทำการแค่สองวัน วันนี้ปริมาณซื้อขายน่าจะเบาบางทำให้บาทแกว่งตัว" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.32 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 108.21 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1383 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 1.1352 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.0990 บาท/
ดอลลาร์
  • นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การกำหนดอัตราดอกเบี้ยไม่จำเป็น
ต้องเดินตามทิศทางของตลาดโลก เพราะเป็นเครื่องมือที่แต่ละประเทศจะนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาของตัวเองและมีขีดจำกัด ดังนั้น
นโยบายที่ควรให้ความสำคัญมากกว่าคือการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจและ นโยบายด้านการคลังที่จะช่วยให้เกิดการฟื้นตัวอย่าง
ยั่งยืน เพราะสภาวะการเงินในขณะนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเนื่องจากมีสภาพคล่องส่วนเกินเป็นจำนวนมาก
  • นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ทั้งภาครัฐและเอกชนมีนโยบายส่งเสริมผลัก
ดันธุรกิจสตาร์ทอัพให้เกิดขึ้นใหม่ในประเทศไทย 4,000-5,000 รายในสิ้นปี 2559 และในปี 2560 จะถึงระดับ 1 หมื่นราย ซึ่งมีผล
ให้เกิดผลกระตุ้นต่อเศรษฐกิจไทยได้ประมาณ 1 แสนล้านบาทในปีหน้า
  • ธนาคารกสิกรไทย ปรับเป้าหมายทางการเงินของปีนี้ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ใน
ปัจจุบัน โดยในส่วนของ NIM ปรับลดลงเหลือ 3.3-3.5% จาก 3.4-3.6% เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยรับมีแนวโน้มปรับลดลงจาก
การปรับลดอัตราดอกเบี้ย และปรับเพิ่มต้นทุนสินเชื่อขึ้นไม่เกิน 1.9% จาก 1.7% เพื่อเตรียมสำรองเผื่อไว้รองรับเศรษฐกิจและ
คุณภาพสินทรัพย์ในระยะต่อไป
  • จีนออกนโยบายในวันนี้เพื่อให้ประชากร, หมู่บ้าน และเขตต่างๆหลุดจากบัญชีรายชื่อยากจน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความ
พยายามในการแก้ปัญหาความยากจนของประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะขจัดความยากจนภายในปี 2020 หลังเสร็จสิ้นแผนพัฒนา
เศรษฐกิจระยะ 5 ปีฉบับที่ 13
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขประมาณการเบื้องต้นสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
ประจำไตรมาสแรกขยายตัว 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2014
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้าน
การพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ
ยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐชะลอตัวลงในไตรมาส
แรก โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 46.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ
เบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 48.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) หลังจาก
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งตรงข้ามที่กระแสคาดการณ์ในตลาดว่า BOJ จะใช้
มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม โดยเงินยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1350 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ
1.1321 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 108.10 เยน จากระดับ 111.52 เยน

แท็ก เงินบาท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ