น.ส.วัฒนา ถิรานุชิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ระบุขณะนี้ยังไม่มีปัจจัยที่เกื้อหนุนให้มีการปรับอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยดีขึ้นจากปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ระดับ BBB+ เพราะต้องดูจากหลายปัจจัย ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยยังต้องพึ่งพิงการส่งออกเป็นหลัก
"(เรทติ้ง) คงที่ไปอีก 1-2 ปี โอกาสปรับขึ้นคงยังไม่มี เพราะต้องดูจากหลายปัจจัย เช่ย รายได้ต่อหัว อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่รายได้ของประเทศส่วนใหญ่ยังพึ่งพิงการส่งออก ไม่ใช่การเติบโตของ Domestic" น.ส.วัฒนา กล่าว
ขณะที่ น.ส.นพลักษณ์ รักธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ทริสเรทติ้ง กล่าวว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่ต่ำ การกระตุ้นเศรษฐกิจยังต้องรอการลงทุนภาครัฐเป็นสำคัญ ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจช้ากว่าการลงทุนภาคเอกชน ขณะที่ผู้ประกอบการในต่างจังหวัดกำลังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงตามราคาสินค้าเกษตรที่ลดลง สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปีนี้ยังไม่ดีเท่าไหร่
"การลงทุนจากภาครัฐทำให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างช้าๆ ยอดส่งออกที่ลดลงฉุดจีดีพีให้ต่ำลง ขณะที่การท่องเที่ยวเป็นเพียงเรื่องเดียวที่ยังขยายตัวได้ดี การขยายตัวของจีดีพีคงอยู่ในระดับนี้ต่อไปอีก 2-3 ปี " น.ส.นพลักษณ์ กล่าว
ส่วน น.ส.วิยดา ประทุมสุวรรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ ทริสเรทติ้ง กล่าวว่า ภาคธุรกิจที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือ ธุรกิจอาหารทะเล จากเรื่อง IUU ซึ่งหากแก้ปัญหาไม่ได้อาจถูกให้ใบแดง ผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวให้มีความพร้อม เช่น การหาตลาดใหม่ การขยายฐานการผลิตออกไปนอกประเทศ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้ประกอบรายย่อยอาจเกิดปัญหาเรื่องต้นทุนเนื่องจากราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก และปริมาณที่มีมากเกินความต้องการ