(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.57/59 ยังมีโอกาสอ่อนค่า

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.57/59 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ ระดับ 35.61 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าได้ โดยนักลงทุนรอติดตามการรายงานผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการ เงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) คืนนี้ ซึ่งต้องดูว่าจะมีความเห็นเกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างไร รวมทั้งรอดู การประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2559 ครั้งที่ 2 ของสหรัฐ

"ตอนนี้คงต้องรอดูรายงานประชุมของ FOMC และการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสแรก ครั้งที่ 2 ของสหรัฐในสัปดาห์ นี้ ส่วนปัจจัยภายในประเทศของเราเองยังไม่ค่อยมีอะไร" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.55 - 35.65 บาท/ดอลลาร์ โดยยังมีแนวโน้ม จะอ่อนค่าได้

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.6333 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (26 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.29696% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (26 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.48410%

ปัจจัยสำคัญ

เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.85/89 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ 109.95 เยน/ดอลลาร์
ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1188/1190 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ 1.1183 ดอลลาร์/ยูโร
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.616 บาท/

ดอลลาร์

สหภาพทีโอทีร่อนหนังสือถึงนายกฯ-กสทช.คัดค้านประมูลคลื่น 900 ระบุมีผู้ร่วมประมูลแค่รายเดียวหวั่นเอกชนสะสม

คลื่นความถี่ผูกขาดแค่ 3 ราย แนะทางออกให้ทีโอทีนำคลื่นไปบริหารจนกว่าสิ้นสุดใบอนุญาต

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส.เผยผลสำรวจช่วง 4 เดือนแรก บ้านจัดสรรเปิดขายใหม่ ลดลง 30% และ

คอนโดมิเนียม ลดลง 16% คาดครึ่งปีหลังผู้ประกอบการเปิดโครงการใหม่เพิ่ม

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์

โครงการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หรือ National e-Payment ว่า ขณะนี้ การดำเนินโครงการมีความคืบหน้าไปอย่าง

มาก โดยที่ประชุมสรุปว่า จะเปิดให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนผ่านช่องต่างๆ ของธนาคารทุกแห่งในวันที่ 15 ก.ค.นี้ หลังจากนั้น

ในเดือน ก.ย.จะเริ่มนำเครื่องชำระเงินอัตโนมัติ (EDC) มาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยคาดว่าจะต้องติดตั้งเครื่องอีดีซีจำนวน

ถึง 1 ล้านเครื่องทั่วประเทศ

คลังเก็บรายได้ ช่วง 7 เดือนแรก 1,247,907 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 70,577 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.0%

สาเหตุหลักมาจากการนำส่งรายได้จากการประมูลคลื่น ด้านศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจ

เศรษฐกิจภูมิภาคครึ่งปีแรก การฟื้นตัวยังเปราะบาง จากภัยแล้ง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ หนี้ครัวเรือนสูง

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.)

เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐค่อนข้างผันผวน ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่สอดคล้องกันนั้น กระตุ้นการคาดการณ์

ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.นี้

ดอลลาร์ปรับตัวลดลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถ

ยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้นในเดือนเม.ย. โดยปรับตัวขึ้น 3.4% หลังจากเพิ่มขึ้น

1.9% ในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ดี ยอดสั่งซื้อสินค้าพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่าย

ของภาคธุรกิจ ร่วงลง 0.8% ในเดือนเม.ย. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค.

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย

(pending home sales) พุ่งขึ้น 5.1% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 116.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.

พ.2006

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 ราย สู่

ระดับ 268,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 พ.ค. ทั้งนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้อยู่ต่ำกว่า

300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 64 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973

นายเจอโรม เพาเวล หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่

ช้า ถ้าหากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐปรับตัวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของเฟด ทั้งนี้ ต้องการเห็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็ง

แกร่งในไตรมาส 2 โดยมีการจ้างงานเต็มที่ ขณะที่ราคามีเสถียรภาพ โดยราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น และการอ่อนค่าของดอลลาร์ช่วยหนุนให้

อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้นใกล้ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% ซึ่งหากข้อมูลเศรษฐกิจสนับสนุนการคาดการณ์ดังกล่าว ก็เป็นการเหมาะสมที่

เฟดจะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญา

น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงหลุดจากระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลในระหว่าง

วัน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 49.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ

เบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 49.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนจับตาดูท่าทีของอิหร่านอย่างใกล้ชิด หลังจากอิหร่านวางแผนที่จะผลักดันการส่งออกน้ำมันให้ได้ถึง 2.2 ล้าน

บาร์เรลต่อวัน ภายในช่วงฤดูร้อนนี้ จากปัจจุบันที่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออก

น้ำมัน (โอเปก) ในวันที่ 2 มิ.ย. เพื่อหาสัญญาณการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อผลักดันราคาให้ดีดตัวขึ้น

แท็ก ธนาคารกลางสหรัฐ เงินบาท GDP

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.57/59 ยังมีโอกาสอ่อนค่า จับตาสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ย-ตัวเลข GDP สหรัฐฯ