(เพิ่มเติม) คลังแจงปรับเงื่อนไขมาตรการภาษีส่งเสริมการลงทุนในปท. หวังกระตุ้นเอกชนและหนุน GDP ขยายตัว

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 1, 2016 11:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชุมพร เสนไสย นิติกรเชี่ยวชาญ กรมสรรพากรชี้แจงการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้มีมติเห็นชอบ เพื่อช่วยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนในประเทศและเพิ่มอัตราการขยายตัวของ GDP ในปี 59

สำหรับการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศดังกล่าวข้างต้น เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 604) พ.ศ. 2559 ที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.58 ซึ่งกำหนดให้การลงทุนในทรัพย์สินประเภทต่างๆ ระหว่างวันที่ 3 พ.ย.58 ถึง 31 ธ.ค.59 สามารถหักรายจ่ายได้เป็นจำนวน 2 เท่า

โดยปรับปรุงเงื่อนไขในส่วนของทรัพย์สินประเภทเครื่องจักรและอาคารถาวรจาก "ต้องได้ทรัพย์สินนั้นมาและอยู่ในสภาพพร้อมใช้การได้ภายในวันที่ 31 ธ.ค.59" เป็น "ไม่จำเป็นต้องได้ทรัพย์สินนั้นมาและอยู่ในสภาพพร้อมใช้การได้ภายในวันที่ 31 ธ.ค.59 แต่ให้เริ่มใช้สิทธิเมื่อได้ทรัพย์สินนั้นมาและอยู่ในสภาพพร้อมใช้การได้แล้ว" ซึ่งจะทำให้การลงทุนในเครื่องจักรและอาคารถาวร ซึ่งใช้เวลาในการติดตั้งหรือก่อสร้างนานกว่าการลงทุนในทรัพย์สินประเภทอื่น ๆ ได้รับสิทธิตามมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ

"เราไม่ได้มีการกำหนดกรอบระยะเวลาในการลงทุนแล้ว เพื่อให้สะดวกกับผู้ประกอบการ แต่ต้องลงในรายการทรัพย์สินว่ามีการลงทุนจริง และไม่ได้กำหนดด้วยว่าต้องลงทุนเท่าไรถึงจะได้รับสิทธิ เปิดกว้างเลย และกรมสรรพากรจะมีระบบตรวจสอบข้อมูลว่าการขอรับสิทธิตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนนี้ ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับมาตรการส่งเสริมของบีโอไอ ต้องเลือกใช้สิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น และผู้ประกอบการสามารถหักรายจ่ายได้เลยตามจำนวนที่ลงทุนในปีแรก และทยอยค่าหักเสื่อมได้ในอัตราไม่เกิน 20% ของวงเงินลงทุน" นายชุมพร กล่าว

พร้อมยอมรับว่า ที่ผ่านมามีบริษัทเอกชนจำนวนมากที่เริ่มทยอยลงทุนเพิ่มเติม ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่ไม่ได้ขอรับสิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนด้านต่างๆ จากบีโอไอด้วย

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ที่ประชุม ครม.ได้มีมติอนุมัติมาตรการดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.58 และกำหนดให้การลงทุนในทรัพย์สินประเภทต่างๆ ได้แก่ เครื่องจักร ส่วนประกอบ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และอาคารถาวร ที่ลงทุนทั้งแต่ 3 พ.ค.58 ถึง 31 ธ.ค.59 สามารถหักรายจ่ายได้เป็น 2 เท่า

ด้านน.ส.กุลยา ตันติเตมิท ที่ปรึกษาด้านนโยบายยุทธศาสตร์ สำนักปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบให้มีการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 604) พ.ศ.2559 จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชนในประเทศ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจด้วย โดยจะเป็นผลดีอย่างมากกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ